ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายในการลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อมองเห็นว่าแต่ละภาคส่วนของสังคมยังคงดำเนินการอย่างกระจัดกระจาย ทำให้ประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง การปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมจึงถูกมองว่าเป็นแนวทางสำคัญในการลดผลกระทบของ NCDs ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วนในสังคม เพื่อสร้างระบบที่เอื้อต่อการควบคุมและป้องกันโรคเหล่านี้
การลดผลกระทบที่เกิดจากโรค NCDs ไม่สามารถทำได้โดยการจัดการระดับบุคคลเท่านั้น เนื่องจากโรคเหล่านี้มีความเชื่อมโยงกับหลากหลายมิติในสังคม เช่น เศรษฐกิจ การศึกษา และการคมนาคมขนส่ง การปรับสภาพแวดล้อมทั้งทางกายภาพและสังคมจึงมีบทบาทสำคัญในการลดความเสี่ยงของโรค NCDs
ดร.เพ็ญ สุขมาก จากสถาบันนโยบายสาธารณะ ม.อ. ได้ชี้ให้เห็นว่าการจัดการโรค NCDs ต้องพิจารณาถึงปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อสุขภาพของประชาชน เช่น การออกแบบพื้นที่สาธารณะที่เอื้อต่อการออกกำลังกาย การสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับทุกกลุ่มวัย และการส่งเสริมพฤติกรรมที่ส่งเสริมสุขภาพ รวมถึงการสนับสนุนให้หน่วยงานท้องถิ่นเข้ามามีบทบาทในการจัดการพื้นที่สาธารณะที่ส่งเสริมสุขภาพ
การลดโรค NCDs จำเป็นต้องมีความร่วมมือจากหลายภาคส่วนในสังคม ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ เอกชน หรือภาคประชาสังคม เพื่อสร้างระบบที่เอื้อต่อการควบคุมและป้องกันโรค การผนึกกำลังระหว่างหน่วยงานต่างๆ จะช่วยให้สามารถบรรลุเป้าหมายในการลดผลกระทบของโรค NCDs ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กระทรวงสาธารณสุขได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อสร้างยุทธศาสตร์ในการลดโรค NCDs ทั้งการสร้างความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับโรค การส่งเสริมพฤติกรรมที่ส่งเสริมสุขภาพ และการปรับสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการป้องกันโรค นอกจากนี้ ภาคการศึกษาได้กำหนดมาตรการเพื่อลดความเสี่ยงของโรค NCDs ในกลุ่มนักเรียน ผ่านการสร้างความตระหนักรู้และการปลูกฝังพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพ ส่วนสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายในการสร้างระบบ Ecosystem ที่ส่งเสริมสุขภาพ โดยมีเป้าหมายในการลดปัจจัยเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น การดื่มเหล้า การสูบบุหรี่ และการบริโภคอาหารที่ไม่เหมาะสม