สุขภาพและการกินอาหารมีความสัมพันธ์ใต้ด้านวัย
บทบาทของการกินอาหารในแต่ละช่วงวัย
เด็กวัยเรียน
การเจริญเติบโตและพัฒนาการดีต้องมีอาหารในสัดส่วนที่เหมาะสม เช่น ข้าว-แป้ง 6-8 ทัพพี ผัก 4 ทัพพี ผลไม้ 3 ส่วน และเนื้อสัตว์ 6 ช้อนกินข้าว นม 2-3 แก้วต่อวัน ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับร่างกายในช่วงนี้.วัยทำงาน
ในช่วงวัยทำงาน ควรได้รับพลังงาน 1,600-2,400 กิโลแคลอรีต่อวัน โดยแบ่งเป็นข้าว-แป้ง 8-12 ทัพพี ผัก 6 ทัพพี ผลไม้ 4-6 ส่วน และเนื้อสัตว์ 6-12 ช้อนกินข้าว นม 1 แก้ว น้ำตาลและน้ำมันไม่เกินวันละ 6 ช้อนชา และเกลือไม่เกินวันละ 1 ช้อนชา.ผู้สูงอายุ
สำหรับผู้สูงอายุ ควรเลือกอาหารที่ย่อยง่าย เช่น ข้าวไม่ขัดสี นมสัตว์ไม่ติดมัน โดยเฉพาะปลาและไข่ ผักใบเขียวที่มีแมกนีเซียมสูง และดื่มน้ำ 6-8 แก้วต่อวัน โดยควรได้รับพลังงาน 1,400-1,800 กิโลแคลอรีตามระดับกิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน.การกินอย่างเหมาะสมและพอดีไม止ช่วยสุขภาพ แต่ยังช่วยลดปริมาณขยะอาหาร ซึ่งเป็นปัญหาที่มีผลต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก. ตลอดจนในปัจจุบัน คนไทยสร้างขยะอาหารเฉลี่ยถึง 86 กิโลกรัมต่อคนต่อปี หรือคิดเป็นประมาณวันละ 240 กรัม ซึ่งมากเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน และสูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลกที่ 79 กิโลกรัมต่อคนต่อปี.การลดขยะอาหารด้วยการกินอย่างเหมาะสม
นางสาวธารินีเผยว่าผู้บริโภคคือผู้สร้างขยะอาหารมากที่สุด โดยขยะอาหารเกิดจากทั้งในครัวเรือนและการกินอาหารนอกบ้าน เช่น การกินอาหารไม่หมดจาน การตักอาหารหรือสั่งอาหารมากเกินไป และการเตรียมอาหารเกินพอดีเวลามีแขกหรืองานเลี้ยง.การวางแผนการเลือกซื้ออาหารด้วยการดูวันหมดอายุก่อนซื้อและไม่ตุนอาหารมากเกินจำเป็นจนกินไม่ทัน ทำให้กลายเป็นขยะอาหาร. ควรกินอาหารให้หมดจานและไม่ตักมามากเกินไป หรือสั่งอาหารเกินที่จะกินไหว.ความสำคัญของการกินอาหารยั่งยืน
การกินอย่างยั่งยืน เช่น เปลี่ยนมาทานอาหารที่เน้นพืชหรือ Plant-based ประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ สามารถช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมได้เนื่องจากการผลิตเนื้อสัตว์และเนื้อสัตว์แปรรูปมีต้นทุนด้านสิ่งแวดล้อมสูง เช่น การปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการใช้ทรัพยากรในการเลี้ยงสัตว์.