ไทยเป็นผู้นำการส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ไปยังยุโรปใต้

ไทยเป็นผู้นำการส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ไปยังยุโรปใต้

ในช่วงแปดเดือนแรกของปี 2567 ไทยสามารถรักษาตำแหน่งผู้ส่งออกรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบยานยนต์อันดับหนึ่งของโลก โดยมีมูลค่าการส่งออกสูงถึง 20,809.79 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 10.55% ของการส่งออกสินค้าทั้งหมดของไทย แม้จะหดตัวเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ก็ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดโลกได้อย่างมั่นคง โดยเฉพาะการส่งออกไปยังตลาดยุโรปใต้ที่มีการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ไทยเป็นผู้ส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ชั้นนำของโลก

การส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ของไทยไปยังยุโรปใต้

ในช่วงแปดเดือนแรกของปี 2567 ไทยสามารถรักษาตำแหน่งผู้ส่งออกรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบยานยนต์อันดับหนึ่งของโลก โดยมีมูลค่าการส่งออกสูงถึง 20,809.79 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 10.55% ของการส่งออกสินค้าทั้งหมดของไทย แม้จะหดตัวเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ก็ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดโลกได้อย่างมั่นคง โดยเฉพาะการส่งออกไปยังตลาดยุโรปใต้ที่มีการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความต้องการรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ของไทยที่เพิ่มขึ้นในตลาดดังกล่าวการส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ของไทยไปยังประเทศในยุโรปใต้ เช่น อิตาลี กรีซ ไซปรัส และมอลตา มีการขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะการส่งออกรถปิกอัพ รถบัสและรถบรรทุก ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นในตลาดดังกล่าว ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ในยุโรปกลับมีแนวโน้มการส่งออกที่หดตัวลง เช่น สหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส ออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดยุโรปใต้เป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับการส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ของไทย

การนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ของประเทศในยุโรปใต้

ในช่วงเจ็ดเดือนแรกของปี 2567 ประเทศในยุโรปใต้ เช่น อิตาลี กรีซ ไซปรัส และมอลตา มีการนำเข้ารถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบยานยนต์จากทั่วโลกในปริมาณที่สูง โดยเฉพาะอิตาลีซึ่งเป็นตลาดนำเข้าอันดับสองของโลก มีมูลค่าการนำเข้าสูงถึง 32,485.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แม้จะหดตัวเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ก็ยังคงเป็นตลาดที่มีความต้องการสินค้ายานยนต์สูง โดยแหล่งนำเข้าสำคัญ ได้แก่ เยอรมนี สเปน และฝรั่งเศส ซึ่งไทยก็เป็นแหล่งนำเข้าที่สำคัญอันดับที่ 21 ของอิตาลีในขณะเดียวกัน กรีซ ไซปรัส และมอลตา ก็มีการนำเข้ารถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบยานยนต์จากทั่วโลกในปริมาณที่สูงเช่นกัน โดยแหล่งนำเข้าสำคัญ ได้แก่ เยอรมนี อิตาลี และฝรั่งเศส ซึ่งไทยก็เป็นแหล่งนำเข้าที่สำคัญของประเทศเหล่านี้ด้วย

สถานการณ์การผลิตรถยนต์ในอิตาลี

จากข้อมูลของสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งชาติของอิตาลี (ANFIA) พบว่า ในเดือนกรกฎาคม 2567 การผลิตรถยนต์ในอิตาลีมีจำนวนลดลงถึง 54.7% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน และในช่วงเจ็ดเดือนแรกของปี 2567 การผลิตรถยนต์ในอิตาลีก็ลดลงถึง 35.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ของอิตาลีกำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างมากอย่างไรก็ตาม แม้ว่าการผลิตรถยนต์ในอิตาลีจะหดตัวลง แต่การนำเข้ารถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบยานยนต์จากไทยกลับมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะการนำเข้ารถปิกอัพ รถบัสและรถบรรทุก ซึ่งแสดงให้เห็นว่ายังคงมีความต้องการใช้งานรถยนต์ดังกล่าวในตลาดอิตาลี ทั้งนี้ อาจเป็นไปได้ว่าความต้องการใช้รถยนต์เพื่อการขนส่งสินค้าและการเกษตรยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง

แนวโน้มและโอกาสสำหรับผู้ส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ของไทย

จากสถานการณ์ที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่าตลาดยุโรปใต้ โดยเฉพาะอิตาลี กรีซ ไซปรัส และมอลตา เป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับการส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ของไทย เนื่องจากมีแนวโน้มการขยายตัวที่สูงขึ้น ในขณะที่ตลาดอื่นๆ ในยุโรปกลับมีแนวโน้มหดตัว ดังนั้น ผู้ส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ของไทยควรให้ความสำคัญกับตลาดยุโรปใต้เป็นพิเศษนอกจากนี้ ยังมีโอกาสในการส่งออกรถยนต์ Cyber truck ของ Tesla และรถยนต์ Special Purpose Motor Vehicles (SPV) ที่ออกแบบตามความต้องการพิเศษ เช่น รถยนต์ใช้ในภารกิจทางทหารหรือการบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการเพิ่มมากขึ้นในตลาดยุโรป โดยผู้ส่งออกไทยควรศึกษาข้อมูลเชิงลึกของตลาดเหล่านี้ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างไรก็ตาม ตลาดอิตาลียังคงเป็นตลาดที่ท้าทายสำหรับผู้ส่งออกไทย เนื่องจากเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกรถยนต์ชั้นนำของโลก มีแบรนด์เป็นของตัวเอง และมีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยมาใช้ในการพัฒนารถยนต์ ดังนั้น ผู้ส่งออกไทยควรศึกษาข้อมูลเชิงลึกของตลาดอิตาลีเพื่อให้สามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพในภาพรวม ตลาดยุโรปใต้ โดยเฉพาะอิตาลี กรีซ ไซปรัส และมอลตา เป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับการส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ของไทย ซึ่งผู้ส่งออกไทยควรให้ความสำคัญและศึกษาข้อมูลเชิงลึกของตลาดเหล่านี้ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถแข่งขันในตลาดที่มีการแข่งขันสูงได้อย่างยั่งยืน