บริษัท ที แอนด์ บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เอสเอ็มจี พิคเจอร์ส แอนด์ วิงส์มีเดีย จำกัด ได้รวมมือกันในการจัดงานกาล่าพรีเมียร์ “Start it Up วัยสตาร์ท น็อนสต็อป”. นี่เป็นภาพยนตร์แรกจากความร่วมมือของผู้สร้าง ไทย – จีน. ประธานอาวุโส ธนินท์ เจียรวนนท์ และ ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร ได้เข้าร่วมแสดงความยินดี.

ความสำคัญของภาพยนตร์นี้

ภาพยนตร์นี้มีความน่าสนใจไม่เพียงแค่ดูสนุกเท่านั้น แต่เป็นประโยชน์สำหรับนักธุรกิจรุ่นใหม่. มันเป็นการให้กำลังใจคนทำธุรกิจที่ไม่มีคำว่าแพ้หรือท้อ. ในยุคนี้การทำธุรกิจเหมือนย้อนกลับไปเมื่อ 70 – 80 ปีที่แล้ว. บริษัทใหญ่มีไม่มาก แต่มีรายย่อยจำนวนมาก. สักวันก็อาจประสบความสำเร็จเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ แตเส้นทางไม่น่ายากและมีอุปสรรค. อย่างไรก็ตามด้วยความสนับสนุนจากเพื่อนและความมีน้ำใจที่มอบให้แก่กัน, คนสามารถประสบความสำเร็จได้. นายธนินท์กล่าวว่าพร้อมกับภาพยนตร์นี้ได้ชมความประทับใจมากจากการมีเพื่อนที่ดีและช่วยทำให้ธุรกิจอยู่รอดได้.ภาพยนตร์นี้สะท้อนถึงความทุ่มเทและต้องผนึกกำลังกัน. ไม่สามารถดดเดี่ยวได้และธุรกิจใหญ่ก็เช่นเดียวกัน. ต้องช่วยเหลือและเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน. ดร.ชวัลวัฒน์อริยวรารมย์เปิดเผยว่าภาพยนตร์นี้เป็นเรื่องแรกที่บริษัทสร้างขึ้นแป็นแนวคอมเมดี้ – เฟรนด์ชิปและยังเป็นการร่วมทุนสร้างระหว่างไทยและจีนเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ.

ผลงานภาพยนตร์

ภาพยนตร์ “Start it Up วัยสตาร์ท น็อนสต็อป” เป็นผลงานจากความร่วมมือของผู้สร้าง ไทย-จีน. บริษัท ที แอนด์ บี มีเดีย โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เอสเอ็มจี พิคเจอร์ส แอนด์ วิงส์มีเดีย จำกัด ได้กำกับภาพยนตร์นี้โดย “เบิร์ด – ภคพล เลิศวชิรไพบูลย์”. อำนวยการผลิตโดย “ตอง – พรวิรุณ แก้วทองและ ชิ – อัฐวุฒิ กองลี”. นักแสดงด้วย นนกุล ชานน สันตินธรกุล, โจ๊ก โซคูล-กรภพ จันทร์เจริญ, เกรียงศักดิ์ เหรียญทอง (อาเกรียง), จิราวัฒน์ วชิรศรัณย์ภัทร (อาวอ), ปราโมทย์ เทียนชัยเกิดศิลป์ (โมท) และ พงศ์เทพ อนุรัตน์ (พี่เทพ) เป็นต้น.ภาพยนตร์นี้มีคุณภาพสูงและแสดงถึงความรู้สึกของผู้สร้าง. มันเป็นการแสดงความไม่ยอมแพ้และต้องการสร้างกำลังใจให้กับนักธุรกิจทุกคนภายใต้สถานการณ์ในปัจจุบัน.

แนวโน้มและความสำคัญของภาพยนตร์

บริษัทเป็นผู้นำในการสร้างแอนิเมชันจนประสบความสำเร็จในตลาดโลกแล้ว. ครั้งนี้ได้ขยายสู่การสร้างภาพยนตร์ที่เป็นคนแสดง ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างไทย – จีน. บริษัทได้มีแผนการสร้างภาพยนตร์ไม่ต่ำกว่า 10 เรื่อง โดยใช้งบลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท. หลังจากนี้จะเริ่มทยอยเปิดตัวภาพยนตร์ออกสู่ตลาด. ศกนี้มีการฉายในประเทศไทยและมีกำหนดจะฉายในประเทศจีนต่อไป. ศกนี้เป็นปีฉลองครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – จีนและภาพยนตร์นี้จะเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในการร่วมกันผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ของทั้งสองประเทศ.ภาพยนตร์นี้มีความสำคัญเพราะมันเป็นการแสดงความร่วมมือระหว่างประเทศและสร้างความสัมพันธ์. มันเป็นประโยชน์สำหรับนักธุรกิจและผู้ชอบภาพยนตร์ทั้งหมด. มันเป็นการแสดงความรู้สึกและความมีใจของผู้สร้างและจะได้รับการตอบรับดีจากสองประเทศ.