เกี่ยวกับรุ่นย่อย KIA EV9 GT จากประเทศเกาหลีใต้
KIA EV9 GT - รุ่นสุดยอดของรถไฟฟ้า
ภายนอกของรถ
ดีเทลโดยรวมยังคงเหมือนเดิมในรุ่นย่อยอื่น ๆ แต่ในส่วนของ ช่องดักลมที่กันชนหน้าจะมาในแบบแอคทีฟ ซึ่งทำให้รถดูมีความโดดเด่นมากขึ้น. รุ่นย่อยนี้ยังมีล้อขนาด 21 นิ้วที่สั่งทำพิเศษและรัดด้วยยางจาก Continental Sport Contact 6 ขนาด 285/45 R2 พร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีเขียวขนาดใหญ่ที่ด้านใน ซึ่งทำให้รถดูมีความรักลุมและโดดเด่น.
ลักษณะทาง外观ของรถยังมีความเป็นเอกลักษณ์ด้วยเส้นสีเขียวตรงกลางตัวเบาะที่นั่งในทุกตำแหน่ง ซึ่งทำให้รถดูมีความโดดเด่นและแตกต่างจากรุ่นย่อยอื่น. รุ่นย่อยนี้ยังมีลวดลาย GT ปั๊มนูนและหนัง Alcantara ที่ทำให้ห้องโดยสารมีความรักลุมและมีความสวยงาม.
ภายในของรถ
ภายในห้องโดยสารจะตกแต่งด้วยทริมสีเขียวตามจุดต่าง ๆ ทั้งที่บนพวงมาลัยตรงตำแหน่ง 12 นาฬิกา ซึ่งทำให้ห้องโดยสารมีความรักลุมและมีความสวยงาม. รุ่นย่อยนี้ยังมีคาดด้วยเส้นสีเขียวตรงกลางตัวเบาะที่นั่งในทุกตำแหน่ง ซึ่งทำให้ผู้โดยสารมีความสุขและมีความพิเศษ.
ลักษณะทางภายในของรถยังมีความเป็นเอกลักษณ์ด้วยลวดลาย GT ปั๊มนูนและหนัง Alcantara ที่ทำให้ผู้โดยสารมีความรักลุมและมีความสวยงาม. รุ่นย่อยนี้ยังมีระบบไฟ Ambient Lighting สีเขียวรอบห้องโดยสาร ซึ่งทำให้ห้องโดยสารมีความรักลุมและมีความสวยงาม.
พลังงานและความเร็ว
สำหรับพละกำลังขับเคลื่อนของ KIA EV9 GT จะมากกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ โดยมอเอตร์ไฟฟ้าคู่หน้าให้กำลัง 160 kW (214 แรงม้า) มอเตอร์ไฟฟ้าคู่หลังให้กำลัง 270 kW (362 แรงม้า) ให้กำลังรวมสูงถึง 501 แรงม้า. รุ่นย่อยนี้ยังมีระบบขับเคลื่อนแบบ e-AWD และสามารถลากจูงได้ถึง 2,267 กก ซึ่งทำให้รถมีความเร็วและพลังงานที่น่าประทับใจ.
อีกทั้ง KIA EV9 GT ยังได้รับการติดตั้งระบบ Virtual Gear Shift ที่สามารถลดแรงบิดของมอเตอร์ในช่วงการ “เปลี่ยนเกียร์” ด้วย Paddle Shifters และมี Active Sound Design เงาเสียงการเปลี่ยนเกียร์ขณะเร่งความเร็ว ซึ่งทำให้ผู้โดยสารมีความสุขและมีความพิเศษ.
ระบบช่วงล่างและระบบชาร์จ
ด้านระบบช่วงล่างมาพร้อมช่วงล่างปรับระดับอัตโนมัติ (adaptive suspension) และดิฟเฟอเรนเชียลลิมิเต็ดสลิปอิเล็กทรอนิกส์ด้านหลัง (e-LSD) ซึ่งช่วยเพิ่มการเกาะถนนในขณะเข้าโค้งและทำให้การขับเคลื่อนของรถมีความมั่นคงและมีความเร็ว.
สำหรับระบบชาร์จแบบ DC Fast Charging KIA EV9 GT จะสามารถชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 99.8 kWh จาก 10% ถึง 80% ได้ในเวลา 25 นาที ซึ่งทำให้ผู้โดยสารสามารถใช้รถได้เร็วและสะดวกสบาย.
