อุบัติเหตุรถชนบนถนนสายจันทบุรี-สระแก้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 2 ราย

เมื่อเวลา 21.15 น. ของวันที่ 17 ตุลาคม 2567 ได้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะชนกับรถนั่งส่วนบุคคล บนถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 317 เส้นทางจันทบุรี-สระแก้ว ในพื้นที่ ต.ขาม อ.มะขาม จ.จันทบุรี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และผู้บาดเจ็บ 2 ราย

อุบัติเหตุรถชนครั้งนี้ ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อผู้ใช้รถใช้ถนน

รายละเอียดของอุบัติเหตุ

เมื่อเวลา 21.15 น. ของวันที่ 17 ตุลาคม 2567 ศูนย์วิทยุกู้ภัยสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี ได้รับแจ้งเหตุ มีอุบัติเหตุรถยนต์กระบะชนกับรถนั่งส่วนบุคคล มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต บนถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 317 เส้นทางจันทบุรี-สระแก้ว บริเวณใกล้เคียงที่ทำการไปรษณีย์มะขาม ในพื้นที่ ต.ขาม อ.มะขาม จ.จันทบุรีเมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ มิตซูบิชิ สีดำ ป้ายทะเบียน จันทบุรี อยู่ในสภาพรถพลิกตะแคง ใกล้กันพบรถนั่งส่วนบุคคล มิตซูบิชิ มิราจ สีดำ ป้ายทะเบียน ระยอง สภาพรถพังเสียหายยับ ตรวจสอบภายในรถเก๋ง พบร่างผู้เสียชีวิตชาย 1 ราย ซึ่งเป็นชายไทย อายุ 28 ปี

การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี ได้ใช้อุปกรณ์ตัดถ่าง นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา ส่วนรถกระบะมีผู้บาดเจ็บ 2 ราย อาสากู้ภัยได้นำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง

สาเหตุของอุบัติเหตุ

สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มะขาม ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบข้อมูลและพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับขี่ทั้งสองฝ่าย เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุในครั้งนี้

ผลกระทบจากอุบัติเหตุ

อุบัติเหตุรถชนครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อผู้ใช้รถใช้ถนน โดยมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และผู้บาดเจ็บ 2 ราย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อครอบครัวของผู้ประสบเหตุเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังส่งผลให้เกิดความสูญเสียทางด้านทรัพย์สิน จากความเสียหายของรถยนต์ทั้งสองคัน

ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

เหตุการณ์อุบัติเหตุรถชนครั้งนี้ เป็นเตือนสติให้ผู้ขับขี่รถยนต์ทุกคนต้องขับขี่อย่างระมัดระวัง และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุที่อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้รถใช้ถนน นอกจากนี้ ยังควรมีการเพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัยบนท้องถนน เช่น การติดตั้งป้ายเตือน ไฟสัญญาณจราจร และการเพิ่มจำนวนจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุในอนาคต