สถานการณ์ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยยังคงประสบกับความยากลำบาก แม้ว่าจะมีสัญญาณบวกบางประการ เช่น การเติบโตของรถยนต์ไฮบริด แต่ภาพรวมของยอดขายยังคงลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในเดือนมกราคม 2568 ยอดขายรวมอยู่ที่ 48,092 คัน ซึ่งลดลง 12.3% จากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยเฉพาะรถยนต์นั่งที่ได้รับผลกระทบมากถึง 22% ขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ลดลง 5% และรถกระบะขนาด 1 ตันลดลง 14.4% แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคยังคงระมัดระวังในการตัดสินใจซื้อรถยนต์

ภาวะเศรษฐกิจและการเงินเป็นปัจจัยสำคัญที่กระทบต่อการฟื้นตัวของตลาดรถยนต์ สถาบันการเงินยังคงเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับหนี้ครัวเรือนที่สูงและศักยภาพในการชำระหนี้ของผู้บริโภค แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเหลือ 2% เพื่อลดภาระทางการเงินและกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่มาตรการนี้ยังไม่สามารถผลักดันยอดขายรถยนต์ให้กลับมาเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ อุตสาหกรรมยานยนต์จำเป็นต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวไปพร้อมกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวม

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายเหล่านี้ยังเป็นโอกาสสำหรับภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ในการปรับตัวและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในระยะยาว การขยายตลาดรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดที่กำลังเติบโตขึ้นเป็นสัญญาณที่ดี สะท้อนถึงแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและการใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและแข็งแกร่งให้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย