สถานการณ์รถยนต์ญี่ปุ่นในไทยมีความยุ่งยากจากการรุกหนักของค่ายรถจีน ซึ่งทำให้หลายค่ายต้องปรับแผนแก้เกม. นิสสันมอเตอร์เป็นตัวอย่างหนึ่ง ซึ่งประกาศแผนปรับโครงสร้างธุรกิจในไทย และเลิกจ้างหรือย้ายพนักงานประมาณ 1,000 คน. โฮนด้าและอื่น ๆ ยังมีการปรับแผนผลิตและการดำเนินงานตามลำดับ.

ผลกระทบจากการรุกหนักของค่ายรถจีน

ยอดขายรถยนต์ในไทยลดฮวบเนื่องจากการรุกหนักของค่ายรถจีน เช่น บีวายดี (BYD) และเอ็มจี (MG). ค่ายซูบารุและซูซูกิก็ปรับยุทธศาสตร์ใหม่โดยปิดโรงประกอบรถยนต์ในไทยและเตรียมการนำเข้าจากอื่น ๆ.

ด้านฮอนด้าได้ประกาศการปรับแผนผลิตรถยนต์ 2 โรงงานในไทย โดยย้ายไลน์ผลิตไปรวมที่โรงประกอบรถยนต์อื่น ๆ เพื่อดำเนินการพัฒนาขีดความสามารถในการดำเนินการผลิตรถยนต์สำเร็จรูป.

แม้ดูเหมือนค่ายรถญี่ปุ่นจะช้ำหนัก แต่บริษัทแม่ยังคงมีศักยภาพบะละฮึ่ม ทำให้ทุกค่ายยังคงพร้อมฮึดสู้.

แบตเตอรี่โซลิดสเตตและความมุ่งมั่นของฮอนด้า

แบตเตอรี่โซลิดสเตตเป็นอาวุธสำคัญที่ได้รับความสนใจจากอุตสาหกรรมยานยนต์. โฮนด้าได้ประกาศว่าจะผลิตแบตเตอรี่โซลิดสเตตสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าในสายการผลิตทดสอบตั้งแต่เดือนมกราคมปีหน้า.

แผนคือการติดตั้งแบตเตอรี่ในรถยนต์รุ่นใหม่ที่จะออกสู่ตลาดในช่วงปลายทศวรรษ 2020 และจะเพิ่มระยะทางวิ่งเป็นสองเท่า. โฮนด้าวางแผนจะขยายระยะทางวิ่งเป็น 2.5 เท่าของปัจจุบันในช่วงทศวรรษ 2040.

ฮอนด้าตั้งเป้าที่จะลดต้นทุนของแบตเตอรี่โซลิดสเตตลง 25% ภายในช่วงปลายปี 2020 และ 40% ภายในช่วงปี 2040. เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้, โฮนด้าจะมุ่งมั่นพัฒนาประสิทธิภาพและรวมกระบวนการผลิตเข้าด้วยกัน.

สำหรับการแข่งขันในการพัฒนาแบตเตอรี่โซลิดสเตตได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นทั่วโลก. โตโยต้า มอเตอร์ตั้งเป้าที่จะเปิดตัวยานยนต์ที่ผลิตจำนวนมากโดยใช้แบตเตอรี่แบบนี้ในปี 2027 หรือ 2028.