ฟาม หง็อก เทากลายเป็นตัวแทนของวีรบุรุษที่ไม่เคยปรากฏบนหน้าประวัติศาสตร์อย่างเปิดเผย เขาเติบโตในครอบครัวคาทอลิกที่มีฐานะดีในเมืองลองเซวียน โดยมีโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมมากมายรอ着他อยู่ แต่เขาเลือกเส้นทางที่แตกต่างออกไป การตัดสินใจสละสัญชาติฝรั่งเศสและเข้าร่วมการต่อสู้เพื่ออิสรภาพของประเทศทำให้เขากลายเป็นตำนานแห่งความกล้าหาญ
ฟาม หง็อก เทามีความสามารถหลากหลายทั้งในด้านการทหารและการวางแผนเชิงกลยุทธ์ เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ข่าวกรองที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในประวัติศาสตร์การปฏิวัติเวียดนาม การทำงานของเขาไม่ใช่แค่การรวบรวมข้อมูลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการแทรกซึมเข้าไปในระบบศัตรูโดยตรง
แม้ว่าจะเผชิญกับความเสี่ยงสูงสุดในการปฏิบัติภารกิจ แต่ฟาม หง็อก เทายังคงดำเนินงานอย่างไม่มีข้อจำกัด เขาสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างสำคัญในสถานการณ์ภายในรัฐบาลไซง่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการวางแผนและสนับสนุนการรัฐประหารหลายครั้งที่นำไปสู่ความล้มเหลวของระบอบการปกครองเดิม
กระบวนการสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับฟาม หง็อก เทานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากข้อมูลเกี่ยวกับเขาส่วนใหญ่อยู่ในเอกสารลับหรือไม่เคยถูกเผยแพร่ออกมา ทีมงานสร้างจึงต้องลงมือสำรวจแหล่งข้อมูลอย่างละเอียดทั้งจากบุคคลที่เคยทำงานร่วมกับเขาและญาติพี่น้องที่ยังคงเหลืออยู่
นอกจากนี้ พวกเขาพยายามนำความทรงจำของผู้คนที่เกี่ยวข้องกับฟาม หง็อก เทามาประกอบในภาพยนตร์ เพื่อสร้างอารมณ์และความจริงที่ใกล้เคียงกับชีวิตจริงมากที่สุด ความพยายามนี้สะท้อนถึงความตั้งใจที่จะนำเสนอฮีโร่คนนี้ให้กับคนรุ่นใหม่ได้ทำความเข้าใจและซาบซึ้งในความเสียสละของเขา
ฟาม หง็อก เทามีบทบาทสำคัญในหลายเหตุการณ์สำคัญของประวัติศาสตร์เวียดนาม เช่น การรัฐประหารในปี พ.ศ. 2506 ที่นำไปสู่การล้มล้างอำนาจของพี่น้องตระกูลโงดิญห์เดียม การทำงานของเขาไม่เพียงแต่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจภายในประเทศเท่านั้น แต่ยังสร้างผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
แม้ว่าเขาจะเสียชีวิตในปี พ.ศ. 2508 แต่ผลงานและความเสียสละของเขาได้รับการยกย่องอย่างสูงในเวลาต่อมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาได้รับการประกาศให้เป็น "วีรบุรุษแห่งกองทัพประชาชน" ในปี พ.ศ. 2538 ซึ่งเป็นเครื่องหมายแห่งเกียรติยศที่เหมาะสมสำหรับชายผู้นี้