งานกุศลที่เปี่ยมไปด้วยความสร้างสรรค์และน่าสนใจกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้จัดกิจกรรมพิเศษภายใต้ชื่อ "วิบวับราตรี กวีแห่งแสง – VIPVUB Night: The Poetry of Light" เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้สัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสดงละครเวทีที่เรียกว่า “แสงแรก” ซึ่งนำเสนอการเล่าเรื่องโดยไม่ใช้วิธีมองเห็นแต่เน้นการใช้กลิ่น เสียง และสัมผัสแทน นอกจากนี้ภายในงานยังเต็มไปด้วยกิจกรรมหลากหลาย เช่น การแสดงแฟชั่นโชว์ ดนตรีสด และอาหารเย็นแสนอบอุ่น เป็นโอกาสสำคัญสำหรับทุกคนในการสนับสนุนเด็ก ๆ ที่มีความบกพร่องทางสายตา

รายละเอียดงานกุศลครั้งสำคัญ

ในวันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 ระหว่างเวลา 15.00-19.00 น. ที่มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ จะจัดกิจกรรมที่สะท้อนถึงพลังและความสวยงามของการสื่อสารผ่านทุกประสาทรับรู้ ละครเวที "แสงแรก" ได้รับการกำกับโดยครูซาน อัศรัญ ศิริสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญจาก Disney & Musical Club Thailand (DMCT) ซึ่งจะพาผู้ชมสัมผัสประสบการณ์ที่แท้จริงของเด็ก ๆ ที่มีความบกพร่องทางสายตา บัตรราคาเพียง 2,000 บาทสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สองเท่า งานนี้ไม่เพียงแค่เป็นการระดมทุน แต่ยังเป็นการสร้างความตระหนักถึงความสามารถของคนตาบอด

นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมยังจะได้เพลิดเพลินกับการแสดงแฟชั่นโชว์ ดนตรีสด และบรรยากาศอบอุ่นจากมื้อค่ำที่จัดเตรียมไว้อย่างพิถีพิถัน งานนี้จึงเป็นมากกว่ากิจกรรมการกุศล แต่ยังเป็นการแสดงออกถึงความงามของความหลากหลายทางความคิดและการรับรู้

หากสนใจจองบัตร โปรดติดต่อที่มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ที่กำหนดไว้

งานนี้ไม่เพียงแค่เป็นการระดมทุน แต่ยังเป็นการสร้างความตระหนักถึงความสามารถของคนตาบอด

เมื่อเราได้มีโอกาสถามหากรายละเอียดเพิ่มเติม เราจะพบว่าการทำงานเพื่อสังคมแบบนี้เป็นแรงบันดาลใจอย่างยิ่ง การสื่อสารผ่านหลายรูปแบบในงานนี้ช่วยให้ผู้คนเข้าใจถึงศักยภาพของมนุษย์ที่ไม่มีข้อจำกัดใด ๆ แม้จะมองไม่เห็นก็ตาม

แรงบันดาลใจจากกิจกรรมนี้

จากการเข้าร่วมกิจกรรมนี้ ทำให้ฉันตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ประสาทรับรู้ที่หลากหลายในการทำความเข้าใจโลกรอบตัว การได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ เช่น การรับรู้ผ่านกลิ่น เสียง และสัมผัส ทำให้ฉันมองเห็นศักยภาพของคนตาบอดในมุมที่แตกต่างออกไป นอกจากนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงพลังของการทำงานเพื่อสังคมที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตคนอื่นได้จริง