เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา, ผู้เสียหายได้ขับรถยนต์ ยี่ห้อเลคซัส สีขาว ไปจอดไว้ที่บริเวณลานจอดรถชั้น B5 ห้างดัง เขตป้อมปราบ. หลังจากนั้น, ผู้เสียหายได้นำทองคำแท่ง น้ำหนัก 20 บาท ไปขายที่ร้านทอง ได้เงินมาจำนวน 883,000 บาท. และยังเก็บทองคำแท่งอีกจำนวน 50 บาท ที่ยังไม่ได้ขายไว้ภายในรถยนต์ที่จอดเอาไว้บริเวณที่เกิดเหตุ. จากนั้นผู้เสียหายได้ไปทำธุระ และกลับบ้านพักย่านสุทธิสาร.
เวลาประมาณ 10.30 น. วันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา, ผู้เสียหายได้มาเอารถยนต์ที่จอดไว้ตั้งแต่เมื่อวาน พบว่ารถยนต์ได้ถูกคนร้ายทุบกระจกด้านหลังข้างซ้ายแตก. โดยรปภ.ห้างได้ทราบเหตุเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น., พบว่าทรัพย์สินที่สูญหายมีเงินสด จำนวน 983,000 บาท, ทองคำแท่งน้ำหนัก 50 บาท มูลค่า 2,207,500 บาท และทองคำรูปพรรณ น้ำหนัก 2 บาท มูลค่า 87,500 บาท. รวมมูลค่าทรัพย์สิน จำนวน 3,278,000 บาท.
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เร่งรัดติดตามสืบสวนมาโดยตลอดอย่างต่อเนื่อง. จนสืบทราบว่าผู้ต้องหาเป็นคนต่างชาติ สัญชาติโคลัมเบีย ได้มาเช่าห้องพักอยู่ที่คอนโดย่านอ่อนนุช. ต่อมาวันที่ 27 พฤศจิกายน, เจ้าหน้าที่ตำรวจซุ่มสังเกตการณ์อยู่บริเวณดังกล่าว, พบว่านายโจเซ่ ผู้ต้องหา ได้เก็บตัวอยู่ แต่ไม่ปรากฎตัวให้ผู้ใดพบเห็น. กระทั่งเจ้าหน้าที่แสดงตัวและทำการจับกุมตัว.
นายโจเซ่ ออแลนโด โอแคมโป ถูกติดตามตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 1130/2567 ลงวันที่ 26 พ.ย. 2567 ข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยมอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้”. จากการสอบสวน, ผู้ต้องหารับว่าได้ก่อเหตุลักทรัพย์ดังกล่าวไปจริง, และทรัพย์สินส่วนหนึ่งได้แบ่งให้เพื่อนชาวต่างชาติสัญชาติโคลัมเบีย ที่ร่วมก่อเหตุด้วย แต่หนีไปประเทศกัมพูชา.
ขณะนี้ยังมีทรัพย์สินบางส่วนเหลืออยู่, และได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจยึดทรัพย์สินดังกล่าวจากห้องพักดังกล่าว. สาเหตุต้องการเงินมาใช้จ่ายเท่านั้น, เบื้องต้นควบคุมตัวพร้อมตรวจยึดของกลาง, นำส่งพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 2 ดำเนินคดี.