พ.ต.ท.ชนะ ขำทอง สว.ส.ทล.๖ กก.1 บก.ทล.พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.๖ กก.๑ บก.ทล.(สิงห์บุรี) และพ.ต.ท.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.๑ บก.ทล.(อยุธยา)พบเห็นรถยนต์เก๋ง ฮอนด้า แจ๊ส สีเทา ติดแผ่นป้ายหมายเลขทะเบียน(ป้ายแดง) ง-9683 กรุงเทพมหานคร ขับขี่ผ่านมาด้วยความเร็วสูง. ต้องสงสัย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขับขี่ติดตามไป และรถหยุดรถยนต์ ได้ที่บริเวณ บริเวณ กม.63-64 ถนนสายเอเซีย(ขาออก) ทล.32 ต.หลักฟ้า อ.ไชโย จ.อ่างทอง. นอกจากนี้ยังพบชายวัย 69 ปี ชาวกรุงเทพเป็นผู้ขับขี่และรถยนต์คันดังกล่าวติดป้ายแดง หมายเลข ง-9683 กรุงเทพมหานคร ปลอม. หลังจากการตรวจสอบตรวจเอกสาร สำเนารถยนต์ถูกต้อง และพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวจดทะเบียนแล้ว หมายเลข 7กฬ-3858 กรุงเทพมหานคร แต่เก็บป้ายทะเบียนไว้ที่ด้านหลังรถยนต์ 2 แผ่น.
เบื้องต้นชายวัย 69 ปีอ้างว่ายืมรถยนต์เพื่อนมาเพื่อเดินทางไปทำธุระที่จังหวัดลพบุรีโดยไม่ทราบว่าพวกรถคันดังกล่าวติดป้ายแดงปลอม. คาดว่าเจ้าของรถยนต์คงติดไว้เนื่องจาก "อยากเท่ห์" จึงไม่ยอมเปลี่ยนป้ายที่ได้มา. เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา "ปลอมและใช้เอกสารทางราชการปลอม" และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไชโยดำเนินดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป. นั่นคือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอ่างทองโดยตำรวจทางหลวงได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและตามกฎหมาย.
เมื่อตำรวจทางหลวงได้เจอรถยนต์เก๋งติดป้ายแดงปลอม คำนวณว่าจะมีปัญหาในส่วนของเอกสารและทะเบียนรถ. หลังจากการตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่าจดทะเบียนถูกต้อง แต่มีป้ายทะเบียนจริงอยู่หลังรถ. นั่นแสดงให้เห็นว่าพวกชายไม่ได้ทำอะไรผิดแย่ แต่เพียงแต่ยืมรถยนต์เพื่อนมาโดยไม่ทราบว่าพวกรถคันดังกล่าวติดป้ายแดงปลอม. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานอย่างเป็นระบบและตามขั้นตอนของกฎหมายเพื่อแก้ปัญหาและให้ความเป็นส่วนตัวของผู้รับผิดชอบได้รับความเห็นเห็นเห็น.
ยังพบว่าพวกชายมีความรู้สึกที่ไม่เหมาะสมในส่วนของการใช้เอกสารทางราชการ. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาและนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อให้ผู้รับผิดชอบได้รับคำสั่งและรับประทานความรู้สึกที่เหมาะสม. นั่นคือการทำงานของตำรวจทางหลวงในอ่างทองที่เป็นประโยชน์และมีความสำคัญสำหรับสังคม.
ตำรวจทางหลวงในอ่างทองได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและได้จับกุมชายวัย 69 ปี ซึ่งขับรถยนต์เก๋งติดป้ายแดงปลอม. หลังจากการตรวจสอบและพบแนวทาง คำนวณว่าจะมีปัญหาในส่วนของเอกสารและทะเบียนรถ. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานอย่างเป็นระบบและตามขั้นตอนของกฎหมายเพื่อแก้ปัญหาและให้ความเป็นส่วนตัวของผู้รับผิดชอบได้รับความเห็นเห็นเห็น. นอกจากนี้ยังได้แจ้งข้อหาและนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อให้ผู้รับผิดชอบได้รับคำสั่งและรับประทานความรู้สึกที่เหมาะสม.
การทำงานของตำรวจทางหลวงในอ่างทองเป็นประโยชน์และมีความสำคัญสำหรับสังคม. นั่นคือการทำงานของตำรวจทางหลวงในอ่างทองที่เป็นประโยชน์และมีความสำคัญสำหรับสังคม. นั่นคือการทำงานของตำรวจทางหลวงในอ่างทองที่เป็นประโยชน์และมีความสำคัญสำหรับสังคม.