ยานยนต์ไทยเผชิญความท้าทายใหม่ในยุคเปลี่ยนผ่าน

Nov 16, 2024 at 1:28 PM
อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ ท่ามกลางความผันผวนทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค ส่งผลให้ตลาดรถยนต์และรถจักรยานยนต์มีแนวโน้มฟื้นตัวช้า ขณะที่กลุ่มยานยนต์เชิงพาณิชย์คาดว่าจะกลับมาคึกคักขึ้นได้ จากปัจจัยสนับสนุนทางการค้าและการท่องเที่ยว ทั้งนี้ ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ายังคงเติบโตต่อเนื่อง แต่ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายในด้านโครงสร้างพื้นฐานและต้นทุนการใช้งาน

ยานยนต์ไทยเดินหน้าสู่อนาคตที่ไม่แน่นอน

ตลาดรถยนต์ในประเทศยังคงซบเซา

ยอดขายรถยนต์ในประเทศคาดว่าจะทยอยฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 เป็นต้นไป แต่ในระยะปานกลางจะยังไม่สามารถกลับสู่ระดับ Pre-Covid ได้ เนื่องจากเผชิญกับปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค อาทิ การเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อของสถาบันการเงิน กำลังซื้อที่ค่อนข้างเปราะบาง และพฤติกรรมการใช้รถที่ยาวนานขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคบางส่วนชะลอการตัดสินใจซื้อรถออกไป นอกจากนี้ ยังต้องติดตามปัญหา Vicious cycle ในตลาดยานยนต์ที่เกิดจากการปรับตัวลดลงของราคารถยนต์มือสอง ซึ่งจะกดดันยอดขายรถยนต์ใหม่ให้ซบเซาต่อเนื่อง

ยานยนต์เชิงพาณิชย์กลับมาคึกคัก

อุตสาหกรรมยานยนต์เชิงพาณิชย์มีแนวโน้มกลับมาขยายตัวได้ ตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศและภาคส่งออกที่ฟื้นตัวดีขึ้น โดยตลาดรถบรรทุกได้รับแรงหนุนจากกิจกรรมขนส่งตามแนวชายแดนและการค้าผ่านแดน ขณะที่ตลาดรถโดยสารได้รับอานิสงส์จากภาคท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคัก อย่างไรก็ตาม ในระยะปานกลางจำเป็นต้องจับตาทิศทางการนำเข้ายานยนต์เชิงพาณิชย์ที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะจากกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนภายในประเทศ

ตลาดรถจักรยานยนต์ยังคงซบเซา

ตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศปี 2568 มีแนวโน้มซบเซาต่อเนื่อง เนื่องจากกำลังซื้อในกลุ่มฐานรากค่อนข้างเปราะบาง ทั้งจากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง รายได้ภาคเกษตรผันผวน และความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน อย่างไรก็ดี ต้องติดตามความคืบหน้าของมาตรการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อและหนุนให้ความต้องการซื้อรถจักรยานยนต์จากกลุ่มแรงงานนอกภาคเกษตรฟื้นตัวได้เข้มแข็งมากขึ้น ส่วนภาคการส่งออกรถจักรยานยนต์คาดว่าจะกลับมาขยายตัวได้ เนื่องจากอุปสงค์จากคู่ค้าสำคัญทยอยปรับเพิ่มขึ้น

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ายังคงเติบโต

ตลาดรถยนต์นั่งไฟฟ้า (Hybrid และ BEV) ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปี 2568 จะครองส่วนแบ่งตลาดราว 30% ของยอดขายรถยนต์ในประเทศทั้งหมด โดยตลาดรถไฮบริดเป็นแรงส่งสำคัญ ขณะที่ยอดขายรถ BEV มีแนวโน้มขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยฉุดรั้งการเปิดรับรถ BEV จากฝั่งผู้บริโภค เช่น ความไม่เพียงพอของสถานีชาร์จสาธารณะ ปัญหาอุปทานอะไหล่ยนต์ และต้นทุนการถือครองที่ยังอยู่ในระดับสูง ทั้งนี้ ห่วงโซ่อุปทาน EV ในประเทศไทยกำลังขยายตัวอย่างก้าวกระโดด โดยกำลังการผลิตรถยนต์ BEV ภายในประเทศจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 6 แสนคัน/ปี ภายในปี 2568 – 2571