ยางรุ่น 'เค1' (K1) ของมิชลิน: ความเหนือชั้นในการขับขี่บนถนนแห้ง

Oct 26, 2024 at 5:29 PM
มิชลินได้พัฒนายางรุ่น 'เค1' (K1) ขึ้นเป็นพิเศษเพื่อ 'เฟอร์รารี่ เอฟ80' โดยใช้เวลาในการพัฒนาเพียง 15 เดือน ด้วยการผสานเทคโนโลยีใหม่จากกีฬามอเตอร์สปอร์ตและกระบวนการผลิตรูปแบบใหม่เข้าด้วยกัน ยางรุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากยาง 'มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 อาร์' (MICHELIN Pilot Sport Cup 2 R) และเป็นยางที่ดีที่สุดเท่าที่มิชลินเคยพัฒนาให้กับเฟอร์รารี่

ยางรุ่น 'เค1' (K1) ของมิชลิน: ความเหนือชั้นในการขับขี่บนถนนแห้ง

การพัฒนายางรุ่น 'เค1' (K1) ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง

มิชลินได้เริ่มต้นพัฒนายางรุ่น 'เค1' (K1) ตั้งแต่ขั้นตอนแรก โดยใช้ความรู้ความชำนาญทางวิศวกรรมที่เหนือกว่ายาง 'มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 อาร์ เค1' ที่ติดตั้งมากับ 'เฟอร์รารี่ เอฟ80' มิชลินได้พัฒนาระบบการสร้างแบบจำลองยาง (Modelling System) ที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัว ซึ่งสามารถจำลองการใช้งานยางในสถานการณ์สุดขั้วหลากรูปแบบ อัลกอรึทึม (Algorithms) ต่างๆ เหล่านี้ไม่เพียงได้รับการจดสิทธิบัตรและปกป้องด้วยการเข้ารหัส (Encryption-Protected) แต่ยังมีประสิทธิภาพสูงสุดในโลก ช่วยให้มิชลินมีพัฒนาการรุดหน้าในด้านการวิจัยเสมือน (Virtual Research) และก้าวเข้ามามีบทบาทในการผลักดันโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยีเสมือนจริง

กระบวนการผลิตยางรุ่น 'เค1' (K1) ที่เป็นเอกลักษณ์

ยางสำหรับ 'เฟอร์รารี่ เอฟ80' ผลิตขึ้นโดยใช้เครื่องจักรพิเศษภายใต้กระบวนการผลิต C3M ของมิชลิน ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตหนึ่งเดียวในโลก สามารถผลิตยางได้ด้วยความแม่นยำระดับหนึ่งในสิบของมิลลิเมตร ยางแต่ละเส้นจึงเป็นยางสั่งทำพิเศษด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง อาจเรียกได้ว่าเป็นผลงานระดับ "โอต์ กูตูร์" (Haute Coutour) ในวงการยางยานยนต์

ขนาดยางที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับ 'เฟอร์รารี่ เอฟ80'

ยางรุ่นดังกล่าวยังเป็นยางที่มีหน้ากว้างที่สุดเท่าที่มิชลินเคยผลิตให้กับเฟอร์รารี่ โดยยางล้อหน้ามีขนาดมาตรฐานทั่วไปอยู่ที่ 285 x 30 R20 ส่วนยางล้อหลังมีขนาดอยู่ที่ 345 x 30 R21 ซึ่งเป็นขนาดยางสำหรับรถซูเปอร์คาร์โดยเฉพาะ

ความเชี่ยวชาญของมิชลินในการพัฒนายางสำหรับ 'เฟอร์รารี่ เอฟ80'

ยางรุ่น 'เค1' (K1) ได้รับแรงบันดาลใจมาจากยาง 'มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 อาร์' (MICHELIN Pilot Sport Cup 2 R) และเป็นยางที่ดีที่สุดเท่าที่มิชลินเคยพัฒนาให้กับเฟอร์รารี่ โดยใช้เวลาในการพัฒนาเพียง 15 เดือน ด้วยการผสานเทคโนโลยีใหม่จากกีฬามอเตอร์สปอร์ตและกระบวนการผลิตรูปแบบใหม่เข้าด้วยกัน มิชลินมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิทัลที่ช่วยให้พัฒนายางได้อย่างมีประสิทธิภาพ