ภาพยนตร์เรื่อง "Tunnels" ได้กลายเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมในเวียดนาม โดยนำเสนอประวัติศาสตร์สงครามผ่านมุมมองใหม่ที่กระตุ้นอารมณ์รักชาติของผู้ชม หนังเล่าถึงเหตุการณ์ซีดาร์ฟอลส์ในปีพ.ศ. 2510 และแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและความสร้างสรรค์ของชาวเวียดนามผ่านระบบอุโมงค์ใต้ดินที่ซับซ้อน ในเวลาเพียง 11 วันหลังจากฉาย ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถทำรายได้ทะลุ 130,000 ล้านดอง และได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาวิธีเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ชาติ
นอกจากนี้ ภาพยนตร์ยังสะท้อนภาพของความยากลำบากและความแข็งแกร่งในช่วงสงคราม พร้อมสร้างผลกระทบทางจิตใจที่ลึกซึ้งต่อผู้ชม ทำให้พวกเขาเกิดคำถามเกี่ยวกับความหมายของสันติภาพและการเสียสละ ผลงานการแสดงที่ยอดเยี่ยมและความสมจริงของฉากต่าง ๆ ส่งผลให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการปลูกฝังความเข้าใจและขอบคุณต่ออดีตของชาติ
ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่เป็นแค่ละครสงครามธรรมดา แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจที่กระตุ้นความสนใจของคนรุ่นใหม่ต่อประวัติศาสตร์ชาติ การนำเสนอที่ไม่ใช้วิธีการแบบเดิม ๆ ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนกำลังเข้าร่วมในเหตุการณ์จริง และนำพาพวกเขาไปสำรวจประสบการณ์ของบรรพบุรุษในยุคสงคราม
ภาพยนตร์ได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากเยาวชน โดยเฉพาะในเมืองไทเหงียน โรงภาพยนตร์หลายแห่งรายงานยอดขายตั๋วที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ บทวิจารณ์เชิงบวกบนโซเชียลมีเดีย เช่น "ภูมิใจในเวียดนามมาก!" และ "เด็ก ๆ ทุกคนควรดูอย่างน้อยสักครั้ง" ยังแสดงให้เห็นถึงผลกระทบเชิงบวกที่ภาพยนตร์เรื่องนี้มีต่อสังคม การนำเสนอที่เน้นความจริงและความรู้สึกส่วนตัวทำให้ประวัติศาสตร์ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป
ความสำเร็จของ Tunnels ช่วยยืนยันถึงความสามารถของงานศิลปะในการเชื่อมโยงอดีตกับปัจจุบัน ภาพยนตร์ไม่เพียงแต่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสงคราม แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้ชมไตร่ตรองถึงความสำคัญของการเสียสละและความสงบสุขในยุคปัจจุบัน การนำเสนอที่ละเอียดอ่อนและปราศจากการประโคมข่าว ทำให้ผู้ชมรู้สึกซาบซึ้งในความรักชาติที่แท้จริง
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของการนำเสนอประวัติศาสตร์ผ่านสื่อที่มีชีวิตชีวา เหตุการณ์ในหนังช่วยกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของคนหนุ่มสาว และเปิดประตูสู่การสำรวจอดีตของชาติ นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมสร้างความเข้าใจและความเคารพต่อการเสียสละของบรรพบุรุษ ภาพยนตร์ได้สร้างพื้นที่ใหม่ในการสนทนาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ทำให้ผู้ชมทุกวัยสามารถเชื่อมโยงกับเรื่องราวเหล่านี้ได้อย่างลึกซึ้ง