ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดจากผู้กำกับ Ly Hai ที่มีชื่อว่า “Flip Side 8: The Sun’s Arms” เป็นภาคต่อที่ยังคงเน้นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความเข้าใจในครอบครัว อย่างไรก็ตาม การตอบรับจากผู้ชมและยอดขายกลับไม่ได้ดีเท่าภาคก่อนหน้า อุปสรรคสำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการแข่งขันที่รุนแรงจากภาพยนตร์อื่นๆ เช่น Detective Kien ซึ่งสร้างโดย Victor Vu และประสบความสำเร็จอย่างมากในตลาดภายในประเทศ นอกจากนี้ยังมีประเด็นเกี่ยวกับเวลาการฉายและการจองที่นั่งในโรงภาพยนตร์ ซึ่งทำให้เกิดคำถามถึงความโปร่งใสของระบบการจองออนไลน์
ในช่วงเทศกาล 30 เมษายน-1 พฤษภาคม ภาพยนตร์ “Flip Side 8” ได้รับความสนใจจากผู้ชมทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคตะวันตก อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับภาพยนตร์อื่นๆ เช่น Detective Kien ที่ทำรายได้ทะลุ 100,000 ล้านดองหลังจากฉายเพียงวันเดียว ภาพยนตร์ของ Ly Hai กลับใช้เวลาถึง 6 วันในการทำรายได้ในระดับเดียวกัน สาเหตุหนึ่งอาจมาจากความแข็งแกร่งของคู่แข่งที่สามารถดึงดูดผู้ชมในเมืองใหญ่ๆ เช่น ฮานอยและโฮจิมินห์
นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับพฤติกรรมการจองตั๋วล่วงหน้าในโรงภาพยนตร์บางแห่ง เช่น CGV, Lotte และ Cinestar ผู้ใช้ Facebook หลายคนพบว่ามีการจองที่นั่งจำนวนมากในบริเวณที่ดีที่สุด แต่เมื่อมาถึงโรงภาพยนตร์จริงกลับไม่พบผู้ชมในจำนวนที่ตรงกับข้อมูลบนระบบจอง ทาง Box Office Vietnam ได้อธิบายว่าหากไม่มีการชำระเงินภายในระยะเวลาที่กำหนด ข้อมูลเหล่านั้นจะไม่ถูกคำนวณในสถิติอย่างเป็นทางการ
แม้ว่าภาพยนตร์จะได้รับเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์บางคนที่ชื่นชมเรื่องราวและนวัตกรรมของภาพยนตร์ แต่ก็ยังถูกมองว่าขาดความสดใหม่เมื่อเปรียบเทียบกับผลงานก่อนหน้าของ Ly Hai ที่เคยทำรายได้ถึง 400,000 ล้านดองในเวลาเพียง 3 สัปดาห์
จากการเปิดตัว “Flip Side 8” ครั้งนี้ ทำให้เห็นถึงความสำคัญของการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดและการเลือกเวลาเปิดตัวภาพยนตร์ในช่วงที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการปรับปรุงกระบวนการจองตั๋วให้มีความโปร่งใสและเชื่อถือได้มากขึ้น เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ชมในระยะยาว
สำหรับ Ly Hai การเปิดตัวครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นบททดสอบความสามารถในฐานะผู้กำกับ แต่ยังเป็นโอกาสให้เขาได้เรียนรู้และพัฒนาแนวทางใหม่ๆ ในการสร้างภาพยนตร์ที่สามารถแข่งขันได้ในตลาดที่เต็มไปด้วยคู่แข่งที่มีศักยภาพสูง