ปฏิบัติการยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 220 ล้านบาทจากเครือข่าย "ดิไอคอนกรุ๊ป"

Oct 17, 2024 at 10:10 AM
Slide 3
Slide 1
Slide 2
Slide 3
Slide 1

ปฏิบัติการยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 220 ล้านบาท จากเครือข่าย "ดิไอคอนกรุ๊ป"

ในการปฏิบัติการล่าสุดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พวกเขาสามารถยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 219 ล้านบาทจากเครือข่าย "ดิไอคอนกรุ๊ป" ซึ่งรวมถึงรถหรูจำนวน 23 คัน ทองคำ กระเป๋าแบรนด์เนม และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากมาย การปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นการตีโพยตีพายอย่างมากของเครือข่ายอาชญากรรมที่ซับซ้อนและมีอิทธิพลอย่างมาก

ปฏิบัติการยึดทรัพย์สินครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

การยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 220 ล้านบาท

การปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นการยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 219 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการยึดทรัพย์สินครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ทรัพย์สินที่ถูกยึดรวมถึงรถหรูจำนวน 23 คัน ทองคำ กระเป๋าแบรนด์เนม และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากมาย การปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นการตีโพยตีพายอย่างมากของเครือข่ายอาชญากรรมที่ซับซ้อนและมีอิทธิพลอย่างมาก

บอสพอล ผู้บริหารบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด

จากการตรวจสอบ พบว่า นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ "บอสพอล" ผู้บริหารบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด มีทรัพย์สินที่ถูกยึดมากที่สุด ประกอบด้วย รถยนต์หรูหลายคัน เช่น Benz S 500e, Bentley flying spur hybrid และ Rolls-Royce รวมมูลค่ากว่า 61 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีกระเป๋าแบรนด์เนม อาวุธปืน และนาฬิกาหรูอีกหลายรายการ

ผู้ต้องหารายอื่นๆ

นอกจาก "บอสพอล" แล้ว ยังมีผู้ต้องหารายอื่นๆ ที่ถูกยึดทรัพย์สินมูลค่าสูง เช่น "บอสปัน" ถูกยึดรถหรู 2 คัน มูลค่า 30 ล้านบาท, "บอสปีเตอร์" ถูกยึดรถหรู 2 คัน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มูลค่า 12 ล้านบาท, "บอสหมอเอก" ถูกยึดรถหรู 1 คัน และของแบรนด์เนมอื่นๆ มูลค่า 3.8 ล้านบาท และ "บอสสวย" ถูกยึดรถหรู 1 คัน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มูลค่า 6 ล้านบาท

การแปลงสินทรัพย์เป็นสกุลเงินดิจิทัล

จากการสืบสวน พบว่าผู้ต้องหาบางส่วนมีการแปลงสินทรัพย์เงินสดเป็นสกุลเงินดิจิทัล เพื่อให้ยากต่อการตรวจสอบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการขยายผลตรวจสอบเพื่อติดตามทรัพย์สินที่ยังคงหลบหนี

ความคืบหน้าในการสืบสวน

ทรัพย์สินที่ถูกยึดในครั้งนี้มูลค่ากว่า 219 ล้านบาท ถือเป็นเพียงส่วนหนึ่งของทรัพย์สินที่ตรวจพบในเบื้องต้น เนื่องจากยังมีทรัพย์สินมีค่าอีกหลายรายการที่อยู่ระหว่างการขยายผลตรวจสอบเพื่อติดตามตรวจยึดกลับคืน โดยเจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินการสืบสวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถยึดทรัพย์สินที่ผู้ต้องหาพยายามแปลงเป็นสกุลเงินดิจิทัลได้ทั้งหมด