นิสสัน มอเตอร์ (Nissan) ได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับยอดการผลิตรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยี e-POWER ของบริษัท ซึ่งพบว่ายอดการผลิตสะสมทั่วโลกมากกว่า 1.5 ล้านคัน จากการจำหน่ายในกว่า 68 ตลาดทั่วโลก นับเป็นความสำเร็จอย่างมากของเทคโนโลยีขับเคลื่อนไฟฟ้าเฉพาะของนิสสัน
เทคโนโลยี e-POWER ของนิสสัน กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดในตลาดโลก
เทคโนโลยี e-POWER ที่ให้ประสบการณ์การขับขี่เหมือนรถไฟฟ้า 100%
เทคโนโลยี e-POWER ของนิสสันเป็นการผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์เบนซินขนาดเล็กและแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน เพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อโดยตรง ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่ได้รับประสบการณ์การขับขี่เหมือนกับรถยนต์ไฟฟ้า 100% แม้ว่าจะยังใช้เครื่องยนต์เบนซินเป็นแหล่งพลังงานหลัก นิสสันเปิดตัวเทคโนโลยีนี้เป็นครั้งแรกในญี่ปุ่นเมื่อปี 2016 ด้วยรุ่น Note e-POWER และต่อมาได้ขยายไปยังรถยนต์อเนกประสงค์อย่าง Kicks และ X-Trail รวมถึงมินิแวนอย่าง Serenaความสำเร็จของ e-POWER ในตลาดหลักของนิสสัน
ในปีงบประมาณ 2023 รถยนต์นิสสันที่จำหน่ายในญี่ปุ่น 42.6% เป็นรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบ e-POWER ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่สูงมาก นอกจากนี้ในประเทศจีน e-POWER ถูกวางจำหน่ายในปี 2021 พร้อมกับรถเก๋ง Sylphy e-POWER และตอนนี้ยังขยายไปสู่รถ SUV X-Trail รุ่นล่าสุดอีกด้วย ส่วนในยุโรป รถ SUV รุ่น X-Trail และ Qashqai เวอร์ชั่น e-POWER ถูกวางจำหน่ายในปี 2022 โดยมียอดขายรวมมากกว่า 100,000 คัน ณ เดือนมกราคมที่ผ่านมาแผนการขยายตลาด e-POWER ไปยังสหรัฐอเมริกาและแคนาดา
นอกจากตลาดหลักในญี่ปุ่น จีน และยุโรปแล้ว นิสสันยังมีแผนที่จะเปิดตัว e-POWER ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ภายในสิ้นปีงบประมาณ 2026 เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าทั่วโลก โดยนิสสันยังคงเดินหน้าพัฒนาความน่าสนใจและความสามารถในการแข่งขันของเทคโนโลยี e-POWER อย่างต่อเนื่องยอดการผลิตรวมของยานยนต์ e-POWER ทั่วโลก
จากข้อมูลที่นิสสันเปิดเผย พบว่ายอดการผลิตรวมของยานยนต์ e-POWER สะสมจากตลาดสำคัญต่าง ๆ ทั่วโลกรวมทั้งสิ้น 1,520,000 คัน โดยแบ่งเป็น ญี่ปุ่น 1,170,000 คัน ยุโรป 140,000 คัน จีน 60,000 คัน และประเทศอื่น ๆ รวม 150,000 คัน ซึ่งถือเป็นความสำเร็จอย่างมากของเทคโนโลยีขับเคลื่อนไฟฟ้าเฉพาะของนิสสัน