ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก แคธี โฮชุล ได้ประกาศแผนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการจราจรคับคั่งในย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) ของนครนิวยอร์กกลับมาปรับปรุงใช้ใหม่ โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม 2568 เป็นต้นไป

แผนการจัดการจราจรคับคั่งที่จะเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของนครนิวยอร์ก

ค่าธรรมเนียมรถติดลดลงแต่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต

ภายใต้แผนการฉบับปรับปรุงใหม่ รถยนต์โดยสารที่จะใช้เส้นทางย่านธุรกิจของเกาะแมนฮัตตันตั้งแต่ถนนสายที่ 60 ลงไป จะต้องเสียค่าธรรมเนียมวันละ 9 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งลดลงจากแผนการเดิมที่ต้องจ่าย 15 ดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม อัตราค่าธรรมเนียมจะเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2571 เป็น 12 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน การเก็บค่าธรรมเนียมรถติดจะช่วยลดจำนวนรถยนต์ที่เข้าสู่ย่านศูนย์กลางธุรกิจลง 10% และระยะทางการวิ่งของรถยนต์จะลดลง 5%

แผนการจัดการจราจรคับคั่งจะต้องผ่านการอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

แผนดังกล่าวมีกำหนดนำเสนอต่อคณะกรรมการควบคุมระบบการขนส่งมวลชนมหานครนิวยอร์ก (MTA) เพื่ออนุมัติในสัปดาห์หน้า หลังจากนั้น รัฐนิวยอร์กและนครนิวยอร์กจะลงนามข้อตกลงกับรัฐบาลกลาง ซึ่งให้ไฟเขียวแก่แผนการดังกล่าวเมื่อเดือนพฤษภาคม 2567 อย่างไรก็ดี แผนการจัดการการจราจรคับคั่งยังคงถูกคัดค้านจากฟิล เมอร์ฟี ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งออกมาโจมตีเมื่อวันพฤหัสบดี และประกาศว่าจะฟ้องร้องเพื่อยับยั้งไม่ให้แผนเก็บค่ารถติดมีผลบังคับใช้

แผนการจัดการจราจรคับคั่งในแมนฮัตตันมีประวัติที่ยาวนาน

แผนการจัดการความแออัดของแมนฮัตตันได้รับการอนุมัติครั้งแรกในปี 2562 ภายใต้การบริหารของแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กในขณะนั้น ก่อนที่โฮชุลจะประกาศระงับแผนอย่างกะทันหันในช่วงต้นเดือนมิถุนายน ไม่นานก่อนที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 30 มิถุนายน 2567 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความท้าทายและความยุ่งยากในการนำแผนการจัดการจราจรคับคั่งมาใช้ในนครนิวยอร์ก