ธี่หยด 2 ทำสถิติใหม่ในวงการหนังไทย กวาดรายได้กว่า 400 ล้านบาทใน 6 วัน

ภาพยนตร์เรื่อง "ธี่หยด 2" ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการหนังไทย โดยสามารถทำรายได้กว่า 400 ล้านบาทภายในเวลาเพียง 6 วันหลังเข้าฉาย ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมและความสนใจของผู้ชมที่มีต่อภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างมาก

ภาพยนตร์ที่ไม่ควรพลาดในปีนี้

ความสำเร็จอย่างรวดเร็วของ "ธี่หยด 2"

ภาพยนตร์เรื่อง "ธี่หยด 2" ได้เข้าฉายอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม และสามารถสร้างปรากฏการณ์ทุบสถิติรายได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว โดยทางเพจเฟซบุ๊ก Major Group ได้เปิดเผยว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถทำรายได้กว่า 400 ล้านบาทภายในเวลาเพียง 6 วันหลังเข้าฉาย ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในวงการหนังไทย นับเป็นความสำเร็จอย่างรวดเร็วและน่าประทับใจความสำเร็จของ "ธี่หยด 2" ยังสะท้อนให้เห็นถึงความนิยมและความสนใจของผู้ชมที่มีต่อภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอย่างมาก ท่ามกลางกระแสชื่นชมและการรอคอยจากแฟนๆ หนังไทยมาอย่างยาวนาน ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงกลายเป็นหนึ่งในหนังไทยที่ได้รับความสนใจและการตอบรับจากผู้ชมเป็นอย่างดี

ความน่าสนใจของเรื่องราวใน "ธี่หยด 2"

นอกจากความสำเร็จในด้านรายได้แล้ว "ธี่หยด 2" ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจและน่าติดตามอย่างมาก ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาคต่อของภาพยนตร์เรื่อง "ธี่หยด" ที่ได้รับความนิยมอย่างมากเมื่อปีที่แล้ว โดยเล่าเรื่องราวของครอบครัวตัวละครหลัก "ย." ที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์สยองขวัญอีกครั้งความน่าสนใจของเรื่องราวใน "ธี่หยด 2" ไม่เพียงแค่การต่อเนื่องจากภาคแรก แต่ยังมีการพัฒนาตัวละครและเพิ่มความสนุกสนานผสมปนเปกับความน่ากลัวอย่างลงตัว ทำให้ผู้ชมได้รับความตื่นเต้นและสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากภาคแรก ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับความสนใจจากผู้ชมเป็นอย่างมาก

ความสำเร็จของ "ธี่หยด 2" ในฐานะหนังไทยยอดนิยม

ความสำเร็จของ "ธี่หยด 2" ในการทำรายได้กว่า 400 ล้านบาทภายในเวลาอันรวดเร็วนั้น ถือเป็นสถิติใหม่ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในวงการหนังไทย และสะท้อนให้เห็นถึงความนิยมและความสนใจของผู้ชมที่มีต่อภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอย่างมากนอกจากนี้ "ธี่หยด 2" ยังถือเป็นหนึ่งในหนังไทยที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปีนี้ ด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจ การพัฒนาตัวละคร และการผสมผสานระหว่างความสนุกสนานและความน่ากลัวอย่างลงตัว ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นหนึ่งในหนังไทยที่ไม่ควรพลาดในปีนี้อย่างแน่นอน