แอนิเมชันกำลังครองตลาดภาพยนตร์ในสหรัฐฯ

ในช่วงสุดสัปดาห์ล่าสุดของเดือนตุลาคม 2024 ตลาดภาพยนตร์ในสหรัฐฯ ได้พบกับความผันผวนอย่างมาก ทั้งในแง่ของความล้มเหลวด้านรายได้ของภาพยนตร์ที่คาดหวังไว้สูง และความสำเร็จอย่างน่าประหลาดใจของภาพยนตร์ที่มีทุนสร้างต่ำ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือ ภาพยนตร์แอนิเมชันกำลังครองตลาดภาพยนตร์ในสหรัฐฯ อย่างน่าทึ่ง โดยมีถึง 5 เรื่องติดใน 10 อันดับแรกของบ็อกซ์ออฟฟิศสุดสัปดาห์ล่าสุด

ภาพยนตร์แอนิเมชันกำลังครองตลาดภาพยนตร์ในสหรัฐฯ

ความหลากหลายและความสามารถของภาพยนตร์แอนิเมชัน

ภาพยนตร์แอนิเมชันในปัจจุบันได้รับการพัฒนาอย่างหลากหลายมากขึ้น และสามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้ชมแต่ละกลุ่มได้เป็นอย่างดี ไม่แพ้ภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากการที่มีภาพยนตร์แอนิเมชันจำนวนมากถึง 5 เรื่องติดใน 10 อันดับแรกของบ็อกซ์ออฟฟิศสหรัฐฯ สุดสัปดาห์ล่าสุด ภาพยนตร์เหล่านี้มาจากหลากหลายสตูดิโอ แสดงให้เห็นว่ามีผู้สร้างภาพยนตร์แอนิเมชันฝีมือดีจำนวนมากขึ้น ทำให้เกิดการแข่งขันในตลาดนี้อย่างเข้มข้น

ความสำเร็จของภาพยนตร์แอนิเมชันชั้นนำ

ในบรรดาภาพยนตร์แอนิเมชันที่ติดใน 10 อันดับแรกของบ็อกซ์ออฟฟิศสหรัฐฯ สุดสัปดาห์ล่าสุด มีหลายเรื่องที่โดดเด่นและประสบความสำเร็จอย่างมาก อาทิ 'The Wild Robot' ของ DreamWorks Animation ที่จัดจำหน่ายโดย Universal ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 2 และทำรายได้ทั่วโลกไปแล้วถึง 149.3 ล้านเหรียญ หรือ 'Piece by Piece' ของ Focus Features ที่นำเสนอเรื่องราวเชิงสารคดีในรูปแบบ LEGO ได้อย่างสร้างสรรค์ และเปิดตัวในอันดับที่ 5 ตามมาด้วย 'Transformers One' ของ Paramount ที่ยังคงทำรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยอยู่ในอันดับที่ 6 และทำรายได้ทั่วโลกไปแล้วถึง 111.5 ล้านเหรียญ นอกจากนี้ ยังมี 'My Hero Academia: You're Next' ที่โด่งดังจากประเทศญี่ปุ่นภายใต้การจัดจำหน่ายในสหรัฐฯ โดย Crunchyroll และ Sony ซึ่งเปิดตัวในอันดับที่ 8 และ 'The Nightmare Before Christmas' ภาพยนตร์แอนิเมชันสตอปโมชันระดับขึ้นหิ้งของ ทิม เบอร์ตัน (Tim Burton) ที่ได้รับการนำกลับมาฉายอีกครั้งโดย Disney เพื่อต้อนรับวันฮาโลวีนเป็นประจำทุกปี ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 9

ภาพยนตร์แอนิเมชันที่จะเข้าสู่ตลาดในอนาคต

นอกจากภาพยนตร์แอนิเมชันที่ประสบความสำเร็จในช่วงสุดสัปดาห์ล่าสุดแล้ว ยังมีภาพยนตร์แอนิเมชันฟอร์มดีอีกหลายเรื่องที่จะเข้าในโรงภาพยนตร์ภายในปี 2024 ไม่ว่าจะเป็น 'Moana 2' ของ Disney, 'The Day the Earth Blew Up: A Looney Tunes Movie' ของ Warner Bros. และ 'Flow' ภาพยนตร์แอนิเมชันทุนสร้างอิสระจากประเทศลัตเวียที่หมายเข้าชิงรางวัลออสการ์ในปี 2025 รวมถึง 'My Life as a Snail' ภาพยนตร์แอนิเมชันสตอปโมชันของ อดัม เอลเลียต (Adam Elliot) ที่เคยคว้ารางวัลออสการ์สาขาแอนิเมชันขนาดสั้นยอดเยี่ยม และ 'The Colors Within' กับ 'Ghost Cat Anzu' ภาพยนตร์แอนิเมชันจากประเทศญี่ปุ่นที่จะจัดจำหน่ายในสหรัฐฯ โดย GKids ซึ่งเคยจัดนำหน่ย 'The Boy and the Heron' (2023) ของ ฮายาโอะ มิยาซากิ (Hayao Miyazaki) ที่คว้ารางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยม