ผู้ออกแบบศิลป์ชาวเวียดนามนามว่า Pham Hung ได้สร้างความโดดเด่นในวงการภาพยนตร์และโทรทัศน์เป็นเวลาเกือบสองทศวรรษ โดยเริ่มต้นจากเวิร์คช็อปเล็ก ๆ ในเมือง Hiep Binh Chanh ที่เต็มไปด้วยเครื่องมือไม้และสีสัน เขาได้พัฒนาทักษะของเขาในการสร้างสรรค์ฉากภาพยนตร์ที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งรวมถึงงานภาพยนตร์และละครโทรทัศน์หลายเรื่อง เช่น Love Dream, Wilderness Mist และ The Old Maid V – Royal Lives ผลงานของเขาได้รับรางวัลระดับประเทศและนานาชาติ รวมถึงการยอมรับในฐานะผู้ออกแบบศิลป์ที่มีความสามารถอย่างยิ่ง
เมื่อกล่าวถึงการทำงานในเบื้องหลังภาพยนตร์ การเริ่มต้นของ Pham Hung สามารถย้อนกลับไปในปี 2011 เมื่อเขาเริ่มทำงานกับผู้กำกับชื่อดังหลายคน เช่น Nguyen Duong และ Phuong Dien เวิร์คช็อปของเขาไม่ใช่เพียงแค่สถานที่สำหรับผลิตอุปกรณ์ประกอบฉากเท่านั้น แต่ยังเป็นเหมือนห้องทดลองที่ผสมผสานระหว่างงานไม้และการวาดภาพเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้มาซึ่งฉากที่สมจริงและสวยงาม
Pham Hung ได้แสดงความสามารถของเขาในหลากหลายประเภทภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นละครโทรทัศน์หรือภาพยนตร์แนวสยองขวัญ เขายังได้เผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งสำคัญในปี 2021 ขณะทำงานในภาพยนตร์เรื่อง The Old Maid V – Royal Lives ซึ่งต้องสร้างฉากภายในอาคารโบราณในเมืองเว้ โดยไม่สามารถใช้เครื่องมือใด ๆ ที่อาจทำลายทรัพย์สินทางวัฒนธรรมได้ การคำนวณและการวางแผนทุกรายละเอียดกลายเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าฉากเหล่านี้จะออกมาสมบูรณ์แบบ
นอกจากนี้ ความสำเร็จของเขาไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่ในประเทศเท่านั้น แต่ยังขยายไปสู่เวทีนานาชาติ เช่นภาพยนตร์เรื่อง Ghost in the Shell ซึ่งถ่ายทำในสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากในเวลากลางคืน การสร้างบรรยากาศที่มืดมนและหนาวเย็นกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เขาหาวิธีใหม่ ๆ ในการเอาชนะความท้าทายเหล่านี้
แม้ว่าเส้นทางอาชีพของ Pham Hung จะเต็มไปด้วยความยากลำบาก แต่เขายังคงมีความกระตือรือร้นและความหลงใหลในงานของเขาเสมอ เขาเชื่อว่าความท้าทายยิ่งใหญ่มากเท่าไร ก็ยิ่งเป็นโอกาสที่ดีในการแสดงความสามารถของเขา การเดินทางจากป่าไกลเข้าสู่เมืองใหญ่ และจากการออกแบบฉากธรรมดาไปสู่ฉากที่มีความซับซ้อนมากขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามและความอดทนของเขา
ผลงานของ Pham Hung ไม่เพียงแต่เพิ่มมูลค่าให้กับภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ที่สนใจในสายอาชีพนี้ ความสามารถในการสร้างสรรค์ฉากที่น่าประทับใจของเขาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์เวียดนาม