เหตุการณ์อุบัติเหตุร้ายแรงที่เกิดขึ้นในจังหวัดสระบุรี ซึ่งรถโม่ปูนคันหนึ่งได้ฝ่าไฟแดงและชนเข้ากับร้านค้าข้างทาง ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมหาศาล ทั้งต่อตัวอาคาร ทรัพย์สินภายในร้าน และยานพาหนะอื่นๆ ที่อยู่บริเวณนั้น ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและต้องเข้ารับการรักษา ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้รับความสนใจจากสาธารณชนเป็นอย่างมาก

อุบัติเหตุรถโม่ปูนชนร้านค้าก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมหาศาล

รถโม่ปูนฝ่าไฟแดงชนร้านค้าข้างทาง

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่บริเวณสามแยกไฟแดง ถนนสองคอน-พระบาทน้อย หมู่ 8 ตำบลสองคอน อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี โดยมีรายละเอียดดังนี้รถโม่ปูนยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียนสระบุรี ซึ่งเป็นรถเปล่า ได้ฝ่าไฟแดงและพุ่งเข้าชนร้านค้าที่อยู่ริมถนน ซึ่งเป็นที่ทำการของกำนันตำบลสองคอน ทำให้ตัวบ้านและร้านค้าได้รับความเสียหายอย่างหนัก เครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้กระจก และสินค้าที่นำมาขายได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมากจากการสอบสวน พบว่า ก่อนหน้านี้ มีรถโม่ปูนคันหนึ่งจอดติดไฟแดงอยู่ ก่อนที่รถโม่ปูนคันที่ก่อเหตุจะวูบและชนเข้าท้ายรถคันแรก จากนั้นก็ฝ่าไฟแดงและพุ่งเข้าชนร้านค้าดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีรถเก๋งนิสสันสีแดงที่จอดอยู่ใกล้ๆ ได้รับความเสียหายจากการชนด้วย

ผู้ได้รับบาดเจ็บและความเสียหายอื่นๆ

จากเหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้ได้รับบาดเจ็บคือ นางลำไพร เจ้าของร้านค้า ซึ่งกำลังขายของให้กับลูกค้าอยู่ในร้าน ได้รับบาดเจ็บบริเวณขาขวา นอกจากนี้ ยังมีรถจักรยานยนต์ของลูกค้าที่มาจอดซื้อของหน้าร้านเสียหาย 3 คันจากการสอบปากคำ นางลำไพรเล่าว่า ขณะเกิดเหตุ เธอกำลังเก็บเงินลูกค้าที่มาซื้อของ ก็ได้ยินเสียงรถโม่ปูนวิ่งมาจากสามแยกไฟแดงด้วยความเร็วสูง และไม่มีท่าทีจะหักหลบ จึงพุ่งเข้าชนร้านของเธออย่างแรง ทำให้ตู้กระจกที่บรรจุเหล้าแตกกระจายไปทั่ว และเธอได้รับบาดเจ็บ

คนขับรถโม่ปูนเผยสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ

จากการสอบสวน นายวินัย คนขับรถโม่ปูนคันก่อเหตุ ได้เล่าว่า ขณะขับรถโม่ปูนเปล่ามากัน 2 คัน เพื่อจะกลับแคมป์คนงานที่ตำบลพุแค อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี จนมาถึงสามแยกไฟแดงแล้ววูบ ไม่รู้สึกตัว จึงชนรถโม่ปูนคันที่ 1 ซึ่งจอดติดไฟแดงอยู่ และตนยังได้ฝ่าไฟแดงจนเข้ามาชนร้านค้าอย่างที่เห็น นายวินัยเชื่อว่า อาจเกิดจากการวูบเนื่องจากเป็นโรคความดัน ซึ่งปัจจุบันยังกินยารักษาอาการอยู่

การดำเนินคดีและการตรวจสอบหาสาเหตุ

หลังจากเกิดเหตุ พ.ต.ต.ไพฑูรย์ สารวัตรสอบสวน สภ.แก่งคอย ได้นำตัวนายวินัยไปสอบปากคำ ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด และวัดระดับแอลกอฮอล์ในร่างกาย แต่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา และจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริง เพื่อดำเนินคดีทางด้านกฎหมายต่อไป