เหตุการณ์อันน่าเศร้าเกิดขึ้นในจังหวัดนนทบุรี เมื่อรถโม่ปูนเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ ส่งผลให้ไรเดอร์วัย 59 ปีเสียชีวิต และนักศึกษาสาวที่ซ้อนท้ายได้รับบาดเจ็บ เหตุการณ์นี้ได้สร้างความสะเทือนใจให้กับทุกคนที่ได้รับทราบ และเป็นการเตือนถึงความสำคัญของการขับขี่อย่างปลอดภัย

ความปลอดภัยบนท้องถนนเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องให้ความสำคัญ

เหตุการณ์อุบัติเหตุที่น่าเศร้า

เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรบางกรวยได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุ โดยรถโม่ปูนขนาด 10 ล้อได้เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุการณ์เกิดขึ้นบนถนนเลียบทางรถไฟบางบำหรุ บริเวณด้านหลังสถานีรถไฟบางบำหรุ ตำบลวัดชลอ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรีเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ พบร่างของนายกำพล อายุ 59 ปี ซึ่งเป็นไรเดอร์ เสียชีวิตในสภาพนอนคว่ำหน้า ข้างตัวพบหมวกกันน็อกที่มีสภาพแตกละเอียด และรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าฟิน สีน้ำเงิน ทะเบียน 2382 กทม. ล้มคว่ำอยู่กลางถนน สภาพไฟท้ายแตกเสียหาย ส่วนรถโม่ปูนฮีโน่ สีเหลือง ป้ายทะเบียน 6811 กทม. พบว่ายางด้านหลังฝั่งขวามีร่องรอยคราบเลือดติดอยู่ และมีผู้บาดเจ็บ 1 รายซึ่งเป็นนักศึกษาสาว ทางอาสากู้ภัยได้นำตัวส่งโรงพยาบาลยันฮีไปก่อนหน้านี้แล้ว

การสอบสวนเบื้องต้น

จากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่า ผู้เสียชีวิตคือนายกำพล ซึ่งเป็นไรเดอร์ที่กำลังจะไปส่งลูกค้าที่เป็นนักศึกษาที่นั่งซ้อนท้าย ขณะที่รถจักรยานยนต์ขับขี่อยู่ในช่องทางขวาและอยู่ด้านหน้า ก็มีรถโม่ปูนขนาด 10 ล้อคันดังกล่าวขับมาจากด้านหลังก่อนที่จะเฉี่ยวชนและเข้าไปอัดเบียดกับแบริเออร์ริมทางทางด้านคนขับรถโม่ปูนให้การว่า ในขณะที่ขับมายืนยันว่าตนไม่เห็นรถจักรยานยนต์ จนกระทั่งมีความรู้สึกเหมือนรถขย่มและมีแรงกระเทือน ประกอบกับมีรถยนต์ตู้ขับมาประกบด้านข้างและส่งสัญญาณพร้อมกับบอกว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น จึงนำรถเข้าข้างทาง ซึ่งขณะนั้นตนก็ไม่รู้ว่าเกิดไปเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว

การดำเนินการของเจ้าหน้าที่

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุ และเก็บคลิปกล้องหน้ารถของพลเมืองดีไว้เป็นหลักฐาน แต่อย่างไรก็ตามจะต้องทำการสอบปากคำคนขับรถบรรทุกเพิ่มเติมอีกครั้ง ส่วนผู้เสียชีวิตได้มอบให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อชันสูตรต่อไป

บทสรุป

เหตุการณ์อุบัติเหตุครั้งนี้ได้สร้างความสะเทือนใจให้กับทุกคน และเป็นการเตือนถึงความสำคัญของการขับขี่อย่างปลอดภัย ทั้งผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และรถบรรทุกต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ทุกคนต้องร่วมมือกันในการสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน