ความสำเร็จที่ไม่คาดคิด: 'Terrifier 3' ทำรายได้เปิดตัวสูงกว่าคาด

ภาพยนตร์สยองขวัญทุนต่ำ 'Terrifier 3' ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ โดยทำรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในสหรัฐฯ ไปมหาศาลถึง 18.3 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากความสำเร็จของภาพยนตร์ในซีรีส์ก่อนหน้า ขณะที่ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง 'Joker: Folie à Deux' กลับประสบปัญหารายได้ที่ลดลงอย่างรวดเร็ว

ภาพยนตร์สยองขวัญทุนต่ำที่กลายเป็นปรากฏการณ์

ความสำเร็จของ 'Terrifier 3'

'Terrifier 3' เป็นภาพยนตร์สยองขวัญทุนต่ำเพียง 5 ล้านเหรียญ แต่กลับทำรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในสหรัฐฯ ไปมหาศาลถึง 18.3 ล้านเหรียญ ซึ่งถือเป็นผลงานที่น่าประทับใจมาก โดยเป็นผลสืบเนื่องจากความสำเร็จของภาพยนตร์ในซีรีส์ก่อนหน้า อย่าง 'Terrifier' (2016) และ 'Terrifier 2' (2022) ที่สร้างได้คัลท์จนถูกผู้ชมและเกิดเป็นกระแสปากต่อปากไปในวงกว้าง ทำให้ 'Terrifier 3' ได้รับความสนใจจากผู้ชมเป็นอย่างมากผู้อำนวยการสร้าง 'Terrifier 3' อย่าง คริส แมคเกิร์ก (Chris McGurk) ได้กล่าวว่า การทำการตลาดด้วยการสร้างความสนใจให้กับผู้ชมกลุ่มเป้าหมายผ่านสื่อโซเชียลเป็นวิธีที่ไม่ต้องลงทุนเยอะ แต่สามารถโน้มน้าวใจให้ผู้ชมยอมจ่ายเงินซื้อตั๋วเข้าชมในโรงภาพยนตร์ได้ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ 'Terrifier 3' และภาพยนตร์อื่นๆ อย่าง 'Godzilla Minus One' (2023) ใช้ได้ผลเป็นอย่างดีนอกจากนี้ 'Terrifier 3' ยังได้รับคะแนนวิจารณ์ที่ดีจากนักวิจารณ์และผู้ชม โดยได้คะแนน 78% จากนักวิจารณ์ 80 คน และ 90% จากผู้ชมมากกว่า 1,000 คน รวมถึง CinemaScore ได้ให้ตัดเกรดไปในระดับ B ซึ่งถือเป็นผลงานที่ได้รับการยอมรับจากทั้งสองฝ่าย

ปัญหารายได้ของ 'Joker: Folie à Deux'

ในขณะที่ 'Terrifier 3' ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง 'Joker: Folie à Deux' กลับประสบปัญหารายได้ที่ลดลงอย่างรวดเร็ว โดยในสัปดาห์ที่ 2 ของการฉาย ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ตกมาอยู่ในอันดับที่ 3 ด้วยรายได้เพียง 7.1 ล้านเหรียญ ซึ่งลดลงจากสัปดาห์แรกถึง 81% และเป็นอัตราส่วนที่ลดลงมากที่สุดในบรรดาภาพยนตร์แยกเล่าเรื่องเดียวของ DCทั้งนี้ รายได้รวมในสหรัฐฯ ของ 'Joker: Folie à Deux' อยู่ที่ 51.6 ล้านเหรียญ และทำรายได้รวมทั่วโลกไปเพียง 165 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างที่สูงถึง 200 ล้านเหรียญ และมีจุดคุ้มทุนที่ประมาณ 450 ล้านเหรียญ ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าเป็นห่วงสำหรับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องนี้

ความสำเร็จของภาพยนตร์อื่นๆ

นอกจาก 'Terrifier 3' แล้ว ยังมีภาพยนตร์อื่นๆ ที่ทำผลงานได้ดีเช่นกัน เช่น 'The Wild Robot' ที่ยังคงรั้งอันดับที่ 2 ด้วยรายได้ 13.5 ล้านเหรียญ ส่งผลให้รายได้รวมในสหรัฐฯ อยู่ที่ 83.7 ล้านเหรียญ และทำรายได้ทั่วโลกรวมกันไป 148.5 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 78 ล้านเหรียญ และคาดว่าจะผ่านจุดคุ้มทุนที่ประมาณ 160 ล้านเหรียญ ได้ในเร็วๆ นี้ส่วน 'Beetlejuice Beetlejuice' ก็ยังคงเป็นขวัญใจผู้ชม โดยทำรายได้รวมในสหรัฐฯ ไปแล้วถึง 275.6 ล้านเหรียญ และทำรายได้รวมทั่วโลกไปอย่างน่าประทับใจถึง 420.3 ล้านเหรียญนอกจากนี้ ภาพยนตร์แอนิเมชันเข้าใหม่อย่าง 'Piece by Piece' ที่เล่าเรื่องราวในชีวิตของ ฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์ (Pharrell Williams) ผ่านมุมมองของสารคดีรูปแบบ LEGO โดยผู้กำกับ มอร์แกน เนวิล (Morgan Neville) ก็เปิดตัวด้วยรายได้ 3.8 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 16 ล้านเหรียญดังนั้น จะเห็นได้ว่า ภาพยนตร์ในหลากหลายประเภทต่างก็ทำผลงานได้ดีในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์สยองขวัญทุนต่ำอย่าง 'Terrifier 3' ภาพยนตร์แอนิเมชันอย่าง 'Piece by Piece' หรือแม้แต่ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง 'Joker: Folie à Deux' ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายและความสนใจของผู้ชมในตลาดภาพยนตร์ในปัจจุบัน