ความสำเร็จของ "Terrifier 3" ในตลาดบ็อกซ์ออฟฟิศ: ความท้าทายของ "Joker: Folie à Deux"

ภาพยนตร์สยองขวัญอิสระ "Terrifier 3" ทำรายได้เปิดตัวสูงสุดในสัปดาห์แรกที่ 18.3 ล้านดอลลาร์จาก 2,514 โรงภาพยนตร์ในอเมริกาเหนือ ขณะที่ "Joker: Folie à Deux" ซึ่งเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ ตกลงมาอยู่ในอันดับที่สาม ด้วยรายได้ 7.055 ล้านดอลลาร์จาก 4,102 โรงภาพยนตร์ ซึ่งถือเป็นความล้มเหลวที่รุนแรง

ความสำเร็จของ "Terrifier 3" และความท้าทายของ "Joker: Folie à Deux"

ความสำเร็จของ "Terrifier 3"

"Terrifier 3" เป็นภาพยนตร์สยองขวัญอิสระที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยเปิดตัวที่ยอดเยี่ยมสำหรับภาพยนตร์ที่มีงบประมาณต่ำและมีความรุนแรงสูง ภาพยนตร์เรื่องนี้เกี่ยวกับตัวตลกปีศาจที่ทำลายล้างเมืองเล็กๆ และได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากทั้งนักวิจารณ์และผู้ชม โดยได้รับคะแนน "B" จาก CinemaScore และ 77% จาก Rotten Tomatoes ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวที่น่าพอใจสำหรับภาคต่อในซีรีส์สยองขวัญอิสระนี้"Terrifier 3" เป็นภาพยนตร์สยองขวัญที่สร้างโดยอิสระ และมีทุนสร้างที่ต่ำมากเพียงประมาณ 6 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นการลงทุนที่ต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับ "Joker: Folie à Deux" ซึ่งมีทุนสร้างประมาณ 200 ล้านดอลลาร์ แต่ "Terrifier 3" กลับประสบความสำเร็จอย่างดีในตลาดบ็อกซ์ออฟฟิศ โดยทำรายได้เปิดตัวสูงสุดในสัปดาห์แรกที่ 18.3 ล้านดอลลาร์ จากเพียง 2,514 โรงภาพยนตร์ในอเมริกาเหนือ ซึ่งถือเป็นผลงานที่น่าประทับใจมาก

ความท้าทายของ "Joker: Folie à Deux"

ในขณะที่ "Joker: Folie à Deux" ครองอันดับหนึ่งในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ก็ตกลงมาอยู่ที่อันดับสามในสัปดาห์นี้ ด้วยรายได้ 7.055 ล้านดอลลาร์จาก 4,102 โรงภาพยนตร์ ซึ่งถือเป็นความล้มเหลวที่รุนแรง โดยรายได้ในสัปดาห์ที่ 2 ของ "Joker: Folie à Deux" ตกลงถึง 82% จากการเปิดตัวที่ไม่เป็นที่พอใจ ซึ่งเป็นหนึ่งในการลดลงที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ขณะนี้ "Folie à Deux" ทำรายได้รวมในประเทศ 51.6 ล้านดอลลาร์ และ 165.3 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก โดยมีงบประมาณการผลิตถึง 200 ล้านดอลลาร์ ทำให้มีแนวโน้มว่าจะไม่สามารถทำรายได้ถึง 450 ล้านดอลลาร์ ถึงจะคืนทุน ซึ่งถือเป็นความท้าทายที่ใหญ่หลวงสำหรับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องนี้ในขณะที่ "Terrifier 3" เป็นภาพยนตร์สยองขวัญอิสระที่มีทุนสร้างต่ำ แต่กลับประสบความสำเร็จอย่างมาก ในขณะที่ "Joker: Folie à Deux" ซึ่งเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่มีทุนสร้างสูงถึง 200 ล้านดอลลาร์ กลับประสบความล้มเหลวในตลาดบ็อกซ์ออฟฟิศ ซึ่งถือเป็นความท้าทายที่ใหญ่หลวงสำหรับผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้