เหตุการณ์น่าสะเทือนใจที่เกิดขึ้นกับอัยการสูงวัย นางวรรณา คอท์เนอร์ ซึ่งถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม และถูกปิดบังความจริงไว้เป็นเวลานาน ก่อนที่จะถูกเปิดเผยออกมา ทำให้ครอบครัวและสังคมต้องเผชิญกับความสูญเสียและความสงสัยที่ยังคงค้างคาอยู่

เปิดโปง

การสืบสวนเบื้องต้น: ติดตามร่องรอยจากกล้องวงจรปิด

เมื่อครอบครัวของนางวรรณา คอท์เนอร์ แจ้งความว่าผู้เป็นแม่หายตัวไป หลังจากไปทำบุญที่สำนักสงฆ์ปฏิบัติเขาพลอย ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้เริ่มติดตามร่องรอยจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ ซึ่งพบว่า นางวรรณาได้ขึ้นรถเก๋งสีขาวไปกับเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง ในช่วงเวลาที่ผู้ตายหายตัวไป ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่ช่วยให้การสืบสวนคดีนี้ดำเนินไปได้อย่างรวดเร็ว

การค้นพบศพและการตรวจสอบสาเหตุการตาย

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบศพของนางวรรณา ในสวนปาล์มที่ อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ซึ่งมีร่องรอยการถูกทำร้ายอย่างโหดเหี้ยม โดยใบหน้าถูกของแข็งทุบจนแตกยุบ และมีบาดแผลที่ท้ายทอย รวมถึงนิ้วมือถูกตัดไป 2 ข้าง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายของผู้กระทำ การตรวจสอบสาเหตุการตายจึงระบุว่า นางวรรณาถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม

การติดตามตัวผู้ต้องสงสัย: เพื่อนสาวที่เป็นเจ้าของรถ

จากการสืบสวน พบว่า นางกมลวรรณ อายุ 57 ปี เป็นเจ้าของรถเก๋งสีขาวที่นางวรรณาขึ้นไปด้วย และเป็นคนสุดท้ายที่โทรศัพท์หานางวรรณาในวันที่เกิดเหตุ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสงสัยว่า นางกมลวรรณอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวและการฆาตกรรมของนางวรรณา ตำรวจจึงได้ออกหมายจับเพื่อเรียกตัวมาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

การเปิดเผยความลับ: เบื้องหลังการหายตัวและการฆาตกรรม

จากการสอบสวน พบว่า นางวรรณาได้ขึ้นรถเก๋งไปกับนางกมลวรรณ หลังจากไปทำบุญที่สำนักสงฆ์ปฏิบัติเขาพลอย โดยมีเพื่อนสนิทอีกคนเป็นคนขับรถ แต่ระหว่างทางกลับ นางวรรณาได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนผู้หญิงอีกคน ก่อนที่จะหายตัวไป และถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมในที่สุด ซึ่งเบื้องหลังของเหตุการณ์นี้ยังคงเป็นปริศนาที่ต้องการการสืบสวนอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อเปิดเผยความจริงที่ซ่อนอยู่