ก้าวสู่ยุคใหม่ของการเดินทางในกรุงเทพฯ ด้วยรถ BRT EV ที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

Oct 26, 2024 at 7:01 AM
ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 นี้ จะเป็นวันแรกที่ประชาชนจะต้องเริ่มจ่ายค่าโดยสารสำหรับการเดินทางด้วยรถโดยสารด่วนพิเศษ BRT หลังจากที่ได้ให้บริการฟรีมาเป็นเวลา 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน - 31 ตุลาคม 2567 ซึ่งค่าโดยสารจะอยู่ที่ 15 บาทตลอดสาย โดยสามารถชำระผ่านช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น BRT E-Ticket หรือบัตรแรบบิท

ก้าวสู่ยุคใหม่ของการเดินทางในกรุงเทพฯ ด้วยรถ BRT EV ที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ค่าโดยสาร BRT ที่ 15 บาทตลอดสาย

ค่าโดยสารรถโดยสารด่วนพิเศษ BRT ถูกกำหนดไว้ที่ 15 บาทตลอดสาย โดยผู้โดยสารสามารถชำระค่าโดยสารผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ BRT E-Ticket และบัตรแรบบิท ซึ่งผู้ที่ใช้บัตรแรบบิทประเภทนักเรียน-นักศึกษา และผู้สูงอายุ จะได้รับส่วนลดค่าโดยสารเหลือเพียง 11 บาทตลอดสาย ทำให้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางลดลงอย่างมีนัยสำคัญการกำหนดอัตราค่าโดยสารที่ 15 บาทตลอดสายนี้ถือเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้บริการรถโดยสารด่วนพิเศษ BRT มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเริ่มต้นการให้บริการ เพื่อให้ประชาชนได้ทดลองใช้บริการและเกิดความคุ้นเคย ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ช่องทางการชำระค่าโดยสาร BRT ที่หลากหลาย

ผู้โดยสารสามารถชำระค่าโดยสารรถ BRT ได้ผ่านช่องทางที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น BRT E-Ticket ที่สามารถซื้อผ่านทาง LINE Official Account @brteticket และชำระด้วยการสแกน QR Payment ผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารต่างๆ หรือการใช้บัตรแรบบิททุกประเภท ยกเว้นบัตรที่ผูกกับบัญชีไลน์ เพย์ การให้ทางเลือกในการชำระค่าโดยสารที่หลากหลายนี้ จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่ไม่มีบัตรแรบบิท สามารถซื้อ BRT E-Ticket ผ่านแอปพลิเคชันได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และยังสามารถใช้บัตรแรบบิทที่มีอยู่แล้วในการเดินทางได้อีกด้วย

ขั้นตอนการซื้อและใช้ BRT E-Ticket

การซื้อ BRT E-Ticket สามารถทำได้ผ่านทาง LINE Official Account @brteticket โดยมีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้ เพิ่มเพื่อน LINE Official Account BRT E-Ticket @brteticket -> เลือกเมนู "ซื้อ E-Ticket" -> เลือกสถานีต้นทาง-ปลายทาง และจำนวนบัตรที่ต้องการ -> ตรวจสอบรายละเอียด และกดชำระเงิน -> เลือกช่องทางการชำระเงิน และทำการชำระเงินผ่านการสแกน QR Codeเมื่อชำระเงินสำเร็จ ผู้โดยสารจะได้รับ BRT E-Ticket ที่สามารถนำไปใช้ในการเดินทางได้ทันที โดยมีเงื่อนไขการใช้งานที่ชัดเจน เช่น จำกัดการซื้อไม่เกิน 4 ใบต่อครั้ง และสามารถใช้ได้ภายในวันที่ซื้อเท่านั้น

ขั้นตอนการใช้บัตรแรบบิทเพื่อชำระค่าโดยสาร BRT

สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการใช้บัตรแรบบิทในการชำระค่าโดยสาร BRT มีขั้นตอนที่ง่ายมาก เพียงแค่เตรียมบัตรแรบบิทที่มีเงินเพียงพอ และเมื่อขึ้นรถแล้ว ให้แตะบัตรแรบบิทที่เครื่องรับชำระเงินจนกว่าจะแสดงผลว่า "ชำระค่าโดยสารสำเร็จ"ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ยังไม่มีบัตรแรบบิท หรือต้องการเติมเงินก่อนใช้บริการ BRT สามารถทำได้ผ่านตู้เติมสบายพลัสที่ติดตั้งอยู่ในสถานี BRT จำนวน 6 สถานี หรือผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น ช้อปปี้ และลาซาด้าของ Rabbit Card

เส้นทางและความถี่การให้บริการของรถ BRT

รถโดยสารด่วนพิเศษ BRT มีทั้งหมด 14 สถานี ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่สาทร ไปจนถึงราชพฤกษ์ โดยมีความถี่ในการให้บริการที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา ในวันจันทร์-ศุกร์ จะมีความถี่ 7-15 นาที ในช่วงเวลาเร่งด่วน และ 10-15 นาที ในช่วงเวลาปกติ ส่วนในวันเสาร์-อาทิตย์ จะมีความถี่ 12-15 นาที ตลอดทั้งวันทั้งนี้ รถโดยสารด่วนพิเศษ BRT จะให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น. โดยรถคันสุดท้ายจะออกจากสถานีต้นทางในเวลา 22.00 น. ซึ่งเวลาให้บริการที่ยาวนานและความถี่ที่สม่ำเสมอนี้ จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารได้เป็นอย่างดี

ช่องทางการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับรถโดยสารด่วนพิเศษ BRT สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น Rabbit Hotline โทร. 02-617-8383 หรือ LINE Official Account @brteticket ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ