กรุงเทพฯ เตรียมเข้มงวดควบคุมการเลี้ยงสัตว์เลี้ยง เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
Nov 1, 2024 at 11:56 AM
กรุงเทพมหานคร (กทม.) เตรียมออกข้อบัญญัติใหม่เพื่อควบคุมการเลี้ยงและปล่อยสัตว์ในพื้นที่ โดยจะบังคับให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกตัวต้องฝังไมโครชิป เพื่อระบุตัวตนและความรับผิดชอบ รวมถึงมีมาตรการเฉพาะสำหรับสุนัขพันธุ์ดุ เพื่อป้องกันปัญหาความเดือดร้อนรำคาญและอันตรายจากสัตว์เลี้ยง
ข้อบัญญัติใหม่ กทม. ควบคุมการเลี้ยงสัตว์อย่างเข้มงวด
ห้ามเลี้ยงสัตว์ในที่สาธารณะ
ร่างข้อบัญญัติฉบับใหม่ของ กทม. ระบุห้ามมิให้ผู้ใดเลี้ยงสุนัขและแมวในที่หรือทางสาธารณะ หรือในที่ของบุคคลอื่นโดยปราศจากความยินยอม เพื่อป้องกันปัญหาความเดือดร้อนรำคาญและอันตรายที่อาจเกิดขึ้น โดยเจ้าของสัตว์เลี้ยงจะต้องรับผิดชอบดูแลสัตว์ของตนอย่างเคร่งครัดจำกัดจำนวนสัตว์เลี้ยงตามขนาดพื้นที่
ข้อบัญญัติใหม่ยังกำหนดจำนวนสุนัขและแมวที่สามารถเลี้ยงได้ตามขนาดพื้นที่ เช่น อาคารชุดหรือห้องเช่าขนาด 20-80 ตารางเมตร เลี้ยงได้ไม่เกิน 1 ตัว หากเกินต้องไม่เกิน 2 ตัว และที่ดินขนาด 20-50 ตารางวา เลี้ยงได้ไม่เกิน 3 ตัว เป็นต้น เพื่อป้องกันปัญหาความแออัดและความเดือดร้อนรำคาญฝังไมโครชิประบุตัวตนเจ้าของ
ข้อบัญญัติใหม่ยังกำหนดให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกตัวต้องนำสัตว์ไปฝังไมโครชิปเพื่อระบุตัวตนและความรับผิดชอบ โดยต้องไปแจ้งเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุขหรือสำนักงานอื่นที่ กทม. กำหนด ซึ่งจะช่วยลดปัญหาสัตว์จรจัดและเพิ่มความรับผิดชอบของเจ้าของควบคุมสุนัขพันธุ์ดุเป็นพิเศษ
นอกจากนี้ ข้อบัญญัติยังกำหนดมาตรการเฉพาะสำหรับสุนัขพันธุ์ดุ เช่น พิทบูล บูลเทอร์เรีย รอทไวเลอร์ ฯลฯ โดยเมื่อออกนอกสถานที่เลี้ยง ต้องใส่อุปกรณ์ครอบปาก ใช้สายจูงที่มั่นคงแข็งแรง และจับสายจูงห่างจากคอสุนัขไม่เกิน 50 เซนติเมตร เพื่อป้องกันอันตรายต่อผู้อื่นลดจำนวนสัตว์จรจัด
จากการสำรวจ กทม. พบว่า ในปี 2567 มีสุนัขและแมวทั้งหมด 198,688 ตัว โดยเป็นสุนัขและแมวจรจัดรวม 28,870 ตัว ดังนั้น ข้อบัญญัติใหม่จะช่วยให้ กทม. สามารถควบคุมจำนวนสัตว์จรจัดได้ดีขึ้น โดยมีหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการทำหมันสัตว์จรจัดในแต่ละพื้นที่ผู้ฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ผู้ใดฝ่าฝืนข้อบัญญัติดังกล่าวจะมีโทษตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยให้ กทม. สามารถแก้ไขปัญหาจรจัดและสร้างความปลอดภัยให้แก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ