Hyundai Ioniq 9 ลุยตลาดรถเอสยูวีเบาะสามแถวระดับเรือธงด้วยการอยู่บนระยะฐานล้อยาว 3,130 มม. ซึ่งเป็นความยาวระยะฐานล้อมากที่สุดของรถจาก Hyundai. ในขณะที่ขนาดตัวรถมีความยาว 5,060 มม. กว้าง 1,980 มม. และสูง 1,790 มม. รุ่นนี้มีความแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ โดยมีล้อหลัง 4 ล้อและเน้นสมรรถนะ.
ด้านดีไซน์ของรถยังคงมากด้วยไฟ Parametric Pixel เหมือนกับ Ioniq รุ่นอื่นๆ และแม้จะเป็นรถเอสยูวีขนาดใหญ่ดูแข็งแกร่ง แต่ก็ถูกออกแบบให้มีความไหลลื่น เน้นแอโรไดนามิก. หากเลือกใช้ออปชันกระจกข้างดิจิตาลจะทำให้รถมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้าน 0.259 Cd.
ระบบขับเคลื่อนของรถมี 3 แบบให้เลือกซึ่งทั้งหมดมีแบตเตอรีความจุ 110.3 kWh ให้พลังงาน. รุ่นเริ่มต้น Long-Range RWD ขับเคลื่อนล้อหลังมากับมอเตอร์ไฟฟ้า 160 kW หรือ 214 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตัน-เมตรติดตั้งที่ด้านหลัง. เดินทางได้ 620 กิโลเมตรเมื่อชาร์จไฟเต็มความจุแบตเตอรี.
รุ่นต่อมา Long-Range AWD ขับเคลื่อน 4 ล้อมีมอเตอร์ไฟฟ้า 70 kW หรือ 93 แรงม้า แรงบิด 255 นิวตัน-เมตรเพิ่มเข้ามาที่ด้านหน้า. ส่วนรุ่นสูงสุด Performance มีมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ซึ่งแต่ละมอเตอร์มีกำลัง 160 kW หรือ 214 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตัน-เมตรแยกติดตั้งทั้งด้านหน้าและด้านหลัง. โดยรถทั้งหมดทำความเร็วได้สูงสุด 200 กม./ชม.
ด้านการชาร์จไฟให้กับแบตเตอรีรองรับการชาร์จเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง 350 kW ทำให้ชาร์จไฟจาก 10-80 เปอร์เซ็นต์โดยใช้เวลา 24 นาที. และรถมีฟังก์ชัน Vehicle-to-Load เพื่อให้พลังแก่อุปกรณ์อื่น.
ห้องโดยสารของรถที่มีทั้งรูปแบบเบาะ 6 ที่นั่งหรือ 7 ที่นั่ง มีจอโค้งที่ประกอบด้วยจอแสดงข้อมูลการขับแบบดิจิตาลขนาด 12 นิ้วและจอ Infotainment ขนาดเดียวกัน. มีระบบเเสียงลำโพง 8 ตำแหน่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมหลายช่องยูเอสบี-ซีสำหรับจ่ายไฟ 100-Watt.
รถยังมากับชุดระบบความปลอดภัยล่าสุดของบริษัทเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน อย่างการทำงานช่วยหลีกเลี่ยงการชนที่ด้านหน้า การทำงานช่วยให้รถอยู่ในช่องจราจร การทำงานช่วยหลีกเลี่ยงการชนในมุมบอด การทำงานช่วยหลีกเลี่ยงการชนจากรถผ่านด้านหลังเมื่อถอยรถจากช่องจอด.
ราคารถยังไม่มีออกมา แต่ถูกระบุว่าจะเริ่มขายที่เกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 จากนั้นจึงตามด้วยยุโรปและภูมิภาคอื่น.