หลังจากมีการฉายในตลาดต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพในช่วงเวลานั้น สุดท้าย ‘Gladiator II’ ได้เข้าฉายในสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเปิดตัวในอันดับที่ 2 แต่ยังคงมีรายได้สูงถึง 55.5 ล้านเหรียญ. ในช่วง 10 วันจากการฉายมาแล้วในตลาดต่างประเทศ มันได้ทำรายได้รวม 165.5 ล้านเหรียญ และมีรายได้ทั่วโลกไปถึง 221 ล้านเหรียญ โดยมีจุดคุ้มทุนอยู่ที่ 500 ล้านเหรียญ. นักวิจารณ์บน Rotten Tomatoes ได้คะแนนวิจารณ์ ‘Gladiator II’ ไป 71% จาก 283 คน แต่ผู้ชมทั่วไปชื่นชอบความบันเทิงฟอร์มยักษ์ในภาพยนตร์นี้มากกว่า โดยได้คะแนน 84% จากผู้ชมมากกว่า 2,500 คน. ในขณะที่ CinemaScore ได้ตัดเกรดในระดับ B ซึ่งน้อยกว่า ‘Gladiator’ (2000) ที่ได้รับการตัดเกรดในระดับ A.

‘Wicked’: ผลงานสำคัญในตลาด

‘Wicked’ เป็นภาพยนตร์มิวสิคัลทุนสร้าง 145 ล้านเหรียญ ของ Universal ซึ่งเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในสหรัฐฯ ได้ทำรายได้สูงถึง 114 ล้านเหรียญ และมีรายได้ทั่วโลกอยู่ที่ 164.2 ล้านเหรียญ พร้อมมีจุดคุ้มทุนอยู่ที่ 290 ล้านเหรียญ. นักวิจารณ์บน Rotten Tomatoes ได้คะแนนวิจารณ์ ‘Wicked’ ไป 90% จาก 260 คน และผู้ชมมากกว่า 10,000 คน ได้คะแนน 97%. CinemaScore ได้ตัดเกรดในระดับ A ซึ่งเทียบเท่ากับภาพยนตร์มิวสิคัลที่ดัดแปลงจากบอร์ดเวย์ชื่อดังเช่น ‘Les Miserables’ (2012), ‘Chicago’ (2002) และ ‘Mamma Mia!’ (2008) ซึ่งได้รับการตัดเกรดในระดับ A, A- และ A- ตามลำดับ. นอกจากนี้ ‘Wicked’ ยังเป็นภาพยนตร์มิวสิคัลดัดแปลงจากบอร์ดเวย์ที่ทำรายได้เปิดตัวสูงสุด เหนือ ‘Les Miserables’ ที่ทำไว้ 103 ล้านเหรียญ.‘Wicked’ เป็นผลงานกำกับของ จอน เอ็ม ชู (Jon M. Chu) จาก ‘Crazy Rich Asians’ (2018) และ ‘In the Heights’ (2021) ซึ่งเล่าเรื่องของ เอลฟาบา (รับบทโดย ซินเธีย เอริโว; Cynthia Erivo) และ กลินดา (รับบทโดย อารีอานา กรานเด; Ariana Grande). เอลฟาบาเป็นหญิงสาวผิวสีเขียวที่ถูกสังคมเข้าใจผิด และ กลินดาเป็นหญิงสาวรูปงามที่ผู้คนในสังคมชื่นชม. ทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกันในดินแดนแห่งออซ แต่ต้องพบบททดสอบครั้งใหญ่ที่ทำให้มิตรภาพของพวกเธอต้องถึงจุดแตกหัก.‘Gladiator II’ และ ‘Wicked’ เป็นภาพยนตร์มิวสิคัลที่ได้รับความสนใจมากในตลาดอเมริกา. ‘Gladiator II’ มีความบันเทิงฟอร์มยักษ์และ ‘Wicked’ มีความแปลกใหม่และมีเรื่องราวที่ดึงดูด. สองภาพยนตร์นี้มีความแตกต่างกันในหลายด้าน แต่ยังคงมีคุณค่าและประโยชน์สำหรับผู้ชม.

5 อันดับ บ็อกซ์ออฟฟิศสหรัฐฯ (22 – 24 พฤศจิกายน 2024)

ในลำดับของ 5 อันดับ บ็อกซ์ออฟฟิศสหรัฐฯ ในช่วงเวลานี้ ‘Wicked’ อยู่ที่อันดับแรกด้วยรายได้สูงถึง 114 ล้านเหรียญ และ ‘Gladiator’ อยู่ที่อันดับที่ 2 ด้วยรายได้ 55.5 ล้านเหรียญ. ‘Red One’ และ ‘Bonhoeffer: Pastor. Spy. Assassin.’ และ ‘Venom: The Last Dance’ ยังเป็นภาพยนตร์ที่มีรายได้และความสำคัญในตลาด.‘Red One’ ทำรายได้ 13.3 ล้านเหรียญในสหรัฐฯ และ 117.1 ล้านเหรียญทั่วโลก. ‘Bonhoeffer: Pastor. Spy. Assassin.’ ทำรายได้ 5.1 ล้านเหรียญในสหรัฐฯ แต่ไม่มีรายได้ทั่วโลก. ‘Venom: The Last Dance’ ทำรายได้ 4.0 ล้านเหรียญในสหรัฐฯ และ 456.4 ล้านเหรียญทั่วโลก.แต่ละภาพยนตร์มีความเป็นเอกลักษณ์และประโยชน์ของตัวเองและสร้างความสนใจในตลาดอเมริกา.