ป่าไม้ยึดแล้ว ที่จอดรถ วัดพระใหญ่เขานาคเกิด แนะใครจะไหว้ ให้ไหว้ข้างล่างปลอดภัยสุด

Aug 30, 2024 at 12:30 PM

กระบวนการขออนุญาตก่อสร้างในเขตป่า และแนวทางการจัดการพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดดินถล่ม

ภูเก็ตเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ทั้งภูเขา ป่าไม้ และชายหาด อย่างไรก็ตาม การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการท่องเที่ยวกลับสร้างปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่า และอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ได้ กรณีเหตุการณ์ดินถล่มที่วัดกะตะเป็นตัวอย่างหนึ่งที่ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการบริหารจัดการพื้นที่เสี่ยงอย่างเคร่งครัด

ป้องกัน ระมัดระวัง ปลอดภัยสูงสุด

ระบบการขออนุญาตก่อสร้างในเขตป่า

สืบเนื่องจากเหตุการณ์ดินถล่มบริเวณวัดกะตะ จังหวัดภูเก็ต นายบรรณรักษ์ เสริมทอง รองอธิบดีกรมป่าไม้ ให้ข้อมูลว่า พื้นที่ที่ทางวัดขออนุญาตก่อสร้างองค์พระใหญ่เดิมอยู่ระหว่างการยื่นขออนุญาต โดยมีเนื้อที่ 15 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ในเขตป่า ดังนั้น ทางวัดหรือสำนักพุทธศาสนาจะต้องยื่นขอผ่อนผันการใช้ประโยชน์ในเขตป่าต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนจึงจะได้รับอนุญาตให้ดำเนินการก่อสร้างได้ ซึ่งกระบวนการนี้ต้องผ่านการสอบถามความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ ก่อนจึงจะมีมติ อนุญาต หรือไม่อนุญาตทั้งนี้ นอกเหนือจากพื้นที่ 15 ไร่ ที่มีการขออนุญาตแล้ว ยังมีพื้นที่อีกส่วนหนึ่งที่ใช้เป็นที่จอดรถ ซึ่งไม่เคยได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ ถือเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าโดยชัดเจน ดังนั้น ทางกรมป่าไม้จึงได้ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปปิดป้ายห้ามใช้พื้นที่ดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้มีการใช้ประโยชน์ในพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาตความชัดเจนในขั้นตอนการขออนุญาตก่อสร้างในเขตป่า เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าในอนาคต นอกจากนี้ ยังเป็นการคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่ และตอบสนองความต้องการของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างสมดุล

การจัดการพื้นที่เสี่ยงต่อดินถล่ม

นอกจากการควบคุมการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าแล้ว การจัดการพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มก็เป็นเรื่องสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความลาดชันสูง และมีร่องน้ำธรรมชาติที่อาจถูกกัดเซาะจากฤดูฝนรองอธิบดีกรมป่าไม้กล่าวว่า จากการหารือกับผู้เชี่ยวชาญ พบว่า ร่องน้ำที่ถูกน้ำกัดเซาะบริเวณวัดกะตะอยู่ในสภาพรุนแรงที่สุดแล้ว แต่ก็จำเป็นต้องใช้มาตรการทางวิศวกรรมเข้าไปซ่อมแซม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดินถล่มซ้ำรอยนอกจากนี้ ในส่วนของการอนุญาตให้ประชาชนขึ้นไปยังบริเวณที่เกิดเหตุการณ์ รองอธิบดีกรมป่าไม้แนะนำว่า ควรหลีกเลี่ยงการขึ้นไปบนเขา เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยง และไม่มีที่จอดรถ ซึ่งการจอดรถตามทางเข้าถือเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าที่ไม่ได้รับอนุญาต หากจำเป็นต้องขึ้นไปควรใช้บริการรถสาธารณะ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดการจัดการพื้นที่เสี่ยงต่อภัยธรรมชาติ เป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่อง โดยการลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพพื้นที่ร่วมกับการใช้มาตรการทางวิศวกรรม เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงซ้ำรอย เพื่อความปลอดภัยของชุมชนในพื้นที่

บทสรุป

จากกรณีเหตุการณ์ดินถล่มที่วัดกะตะ จังหวัดภูเก็ต เป็นบทเรียนสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการบริหารจัดการพื้นที่เสี่ยงต่อภัยธรรมชาติ ควบคู่ไปกับการเคร่งครัดในกระบวนการขออนุญาตก่อสร้างในเขตป่า เพื่อป้องกันปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าในอนาคต การดำเนินการดังกล่าวจะเป็นการสร้างความสมดุลระหว่างการพัฒนาและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ อันจะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนและปลอดภัยสำหรับชุมชนในพื้นที่