แนวโน้มตลาดธุรกิจสัตว์เลี้ยงไทยค้างวงงบน้อยลง แต่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
อุตสาหกรรมธุรกิจสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยมีแนวโน้มการเติบโตที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งในปีนี้ แม้ว่าอัตราการเติบโตจะชะลอตัวลงจากปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงรักษาระดับการขยายตัวได้อย่างน่าพอใจ ตามการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนี้ช่องทางการเติบโตของตลาดธุรกิจสัตว์เลี้ยงในอนาคตที่น่าจับตามอง
ตลาดสัตว์เลี้ยงในไทยยังคงเติบโตต่อเนื่อง แม้ว่าอัตราการขยายตัวจะชะลอตัวลง
สพญ.กฤติกา ชัยสุพัฒนากุล ประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ คาดการณ์ว่า มูลค่าตลาดสินค้าเกี่ยวกับ "สัตว์เลี้ยง" ซึ่งรวมถึงอาหารสัตว์เลี้ยง อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง และค่ารักษาพยาบาลสัตว์เลี้ยง จะเติบโตแตะ 1.12 แสนล้านบาทภายในปี 2567 โดยมีอัตราเติบโตประมาณ 6-8% จากปีก่อนหน้า แม้ว่าจะถือว่าเป็นอัตราที่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับการเติบโตที่ไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปีในอดีตการชะลอตัวในอัตราการเติบโตของตลาดสัตว์เลี้ยงนี้ เกิดจากสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดขายในหมวดอาหารสัตว์เลี้ยงลูกสุนัขและลูกแมว ตลอดจนยอดขายจากฟาร์มเพาะพันธุ์สัตว์เลี้ยงลดลง ขณะที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงที่มีอยู่แล้วก็ไม่มีการเพิ่มเติม และคนที่ยังไม่มีสัตว์เลี้ยงก็เลือกที่จะไม่รับเลี้ยงในปีนี้ในระยะยาว กระแสการเลี้ยงสัตว์เป็นลูกหลานคนหนึ่งยังคงเป็นเทรนด์หลัก
อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวแล้ว สพญ.กฤติกา มองว่า กระแสการเลี้ยงสัตว์เสมือนเป็นลูกหลานคนหนึ่ง (Pet Humanization) จะยังคงเป็นเทรนด์หลักในอุตสาหกรรมนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการดำเนินชีวิตของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะคนวัยทำงานที่ต้องการมีคู่แต่ไม่มีลูก (DINK) และกลุ่มผู้สูงอายุที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นในสังคมไทย ซึ่งมักจะเลือกเลี้ยงสัตว์เพื่อแก้ปัญหาความเหงาพูลเพิ่ม ทองเจริญพูลพร ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน รพส.ทองหล่อ กล่าวเสริมว่า เมื่อเจ้าของสัตว์เลี้ยงให้ความสำคัญกับน้องๆ สุนัขและแมวมากขึ้น ก็จะยินดีใช้จ่ายมากขึ้นในการดูแลเช่นกัน โดยจากการวิจัยพบว่า เจ้าของสุนัขพันธุ์ใหญ่จะใช้จ่ายในการดูแลเฉลี่ย 28,000 บาทต่อปี และเจ้าของสุนัขพันธุ์เล็กจะใช้จ่ายเฉลี่ย 24,000 บาทต่อปีรพส.ทองหล่อเดินหน้าขยายธุรกิจในประเทศไทยและต่างประเทศ
จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้ รพส.ทองหล่อ ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจโรงพยาบาลสัตว์ในไทย มีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 จะมีการเปิดสาขาใหม่ทั้งหมด 2 สาขา ได้แก่ สาขาเชียงใหม่แอร์พอร์ตที่เปิดตัวไปเมื่อต้นปี และสาขาอโศก-ประสานมิตร ที่จะเปิดตัวช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งจะทำให้ รพส.ทองหล่อ มีครบทั้งหมด 21 สาขาในปีนี้ส่วนในปีถัดไป (2568) แม้จะไม่มีการเปิดสาขาใหม่ แต่ รพส.ทองหล่อ จะมีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ในการย้ายและขยายพื้นที่สาขาปิ่นเกล้า จากเดิมเป็นตึกแถวพื้นที่เล็กเพียง 600-700 ตารางเมตร ไปยังทำเลใหม่ที่ตรงข้ามตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรี พื้นที่ใหญ่ขึ้นเป็น 4,500 ตารางเมตร โดยใช้งบลงทุนกว่า 200 ล้านบาทนอกจากการขยายธุรกิจในประเทศไทยแล้ว รพส.ทองหล่อ ยังมีการลงทุนในประเทศเวียดนามอีกด้วย โดยปัจจุบันได้เปิดโรงพยาบาลแห่งแรกที่เมืองโฮจิมินห์ และอยู่ระหว่างการหารือกับพันธมิตรร่วมทุนเพื่อเปิดสาขาที่ 2 ในเวียดนาม ซึ่งอาจจะเป็นที่กรุงฮานอยหรือขยายไปยังเมืองอื่นๆขณะเดียวกัน รพส.ทองหล่อ ยังให้ความสำคัญกับการลงทุนในด้านบุคลากรและเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการให้บริการ โดยมีการจัดตั้ง "Thonglor Academy" เพื่อฝึกอบรมและพัฒนานิสิตนักศึกษาในการเป็นสัตวแพทย์ พยาบาลสัตว์ และเปิดโอกาสให้สัตวแพทย์จากต่างประเทศเข้ามาอบรมเพิ่มเติมด้วย รวมถึงการลงทุนในอุปกรณ์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และระบบเทคโนโลยีในส่วนของ "หลังบ้าน" เพื่อช่วยให้บุคลากรทำงานได้สะดวกและประหยัดเวลามากขึ้น