มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรสาธารณกุศลที่เก่าแก่และเปี่ยมด้วยประสบการณ์ในการบริการสังคมไทย ได้สร้างประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 114 ปี ด้วยการให้ความช่วยเหลือที่ไม่เลือกปฏิบัติต่อชนชั้น วรรณะ หรือศาสนา มูลนิธิฯ ได้สานต่อปณิธานอันแน่วแน่ในการช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในความทุกข์ยาก โดยมีการดำเนินงานที่หลากหลาย ตั้งแต่การกู้ชีพ การแพทย์สงเคราะห์ ไปจนถึงการสนับสนุนด้านการศึกษาและอาชีพ
ในการแถลงผลงานประจำปี 2566 ที่ผ่านมา มูลนิธิฯ ได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน และการขยายขอบข่ายการช่วยเหลือให้ครอบคลุมทุกมิติของชีวิต ตั้งแต่การเกิด การแก่ การเจ็บป่วย จนถึงการตาย ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความมั่นคงและความยั่งยืนของมูลนิธิฯ ในการเป็นแสงสว่างแห่งความหวังให้กับสังคม
การบริหารจัดการทางการเงินของมูลนิธิฯ ในปี 2566 ได้แสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสและการใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้งบประมาณกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า มูลนิธิฯ ได้จัดสรรงบประมาณไปยังการช่วยเหลือในหลายด้าน ทั้งการกู้ชีพ การแพทย์สงเคราะห์ และการสร้างชีวิตใหม่ โดยมีการเปิดเผยรายละเอียดของการใช้จ่ายอย่างละเอียด ทำให้ผู้บริจาคสามารถติดตามและเห็นผลลัพธ์ของการบริจาคได้อย่างชัดเจน
มูลนิธิฯ ได้ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัยพิบัติ การสนับสนุนการศึกษา และการส่งเสริมอาชีพ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการลงทุนในอนาคตของสังคม และเป็นการสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
โครงการสำคัญที่ได้รับความสนใจอย่างมากคือการก่อสร้างศาลเจ้าไต้ฮงกง ซึ่งเป็นการรวมพลังศรัทธาและการสืบสานวัฒนธรรมจีน ศาลเจ้าแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่สำหรับการสักการะเทพเจ้าจีนหลากหลายองค์เท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างสัญลักษณ์ใหม่ของมูลนิธิฯ ที่สะท้อนถึงความเชื่อมั่นและความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์สังคมที่ดีขึ้น
การก่อสร้างศาลเจ้าได้คืบหน้าไปอย่างมาก โดยมีการรายงานว่างานก่อสร้างหลักและโครงสร้างอาคารได้เสร็จสิ้นมากกว่า 90% และคาดว่าจะเปิดให้สาธุชนเข้าสักการะก่อนเทศกาลตรุษจีนในปี 2568 ซึ่งจะเป็นการเปิดประตูสู่การเชื่อมโยงความศรัทธาและการทำความดีในวงกว้าง
มูลนิธิฯ ได้ดำเนินการช่วยเหลือและสร้างชีวิตใหม่ให้กับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยการดำเนินโครงการต่างๆ ที่ครอบคลุมหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา การประกอบอาชีพ หรือการดำรงชีพ ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
การสร้างชีวิตใหม่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การให้ความช่วยเหลือทางวัตถุเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างโอกาสในการเรียนรู้ การพัฒนาทักษะ และการส่งเสริมให้มีการดำเนินชีวิตที่มั่นคงและยั่งยืน
มูลนิธิฯ ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาและขยายขอบข่ายการดำเนินงาน ด้วยการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนในการเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ครบวงจร ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยเหลือในด้านการบรรเทาทุกข์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างชีวิตใหม่และการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับทุกคนในสังคม
การยืนหยัดในการสานต่อปณิธาน 'ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต' ได้กลายเป็นหัวใจหลักของมูลนิธิฯ ที่จะดำเนินต่อไปไม่มีวันสิ้นสุด โดยมีความหวังที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนในการร่วมมือกันสร้างสังคมที่ดีขึ้น