เหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญเกิดขึ้นเมื่อ 'อาจารย์น้องหญิง' ผู้ที่มีชื่อเสียงจากการให้การรักษาด้วยวิธีทางเลือก ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมพร้อมด้วย 'อาจารย์ชาย' และ 'พี่โดม' ที่สถานที่รักษาที่เรียกว่า 'แดนธรรมสุขาววะดี' ในจังหวัดอุดรธานี การจับกุมดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับชุมชนที่นั่น และเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ
หลังจากการจับกุม อาจารย์น้องหญิงและคณะได้ถูกส่งตัวไปยังกรุงเทพฯ เพื่อดำเนินคดี ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้กลายเป็นข่าวใหญ่ที่สร้างความสนใจให้กับสาธารณชนทั่วประเทศ
ในขณะที่ความสนใจจากสาธารณชนยังคงมีอยู่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานีได้ส่งหนังสือด่วนที่สุด ซึ่งเป็นคำสั่งให้หยุดกิจกรรมการรักษาที่ 'แดนธรรมสุขาววะดี' ทันที คำสั่งนี้ได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการดำเนินงานของสถานที่ดังกล่าว และเป็นการยืนยันถึงความจริงจังของหน่วยงานรัฐในการตรวจสอบและควบคุมการรักษาที่ไม่ได้มาตรฐาน
การตอบสนองต่อคำสั่งนี้จากผู้คนในพื้นที่ยังคงไม่ชัดเจน แต่มีรายงานว่าการรักษาได้หยุดลงตามคำสั่ง และสถานที่ดังกล่าวได้เงียบเหงาลงอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปยัง 'แดนธรรมสุขาววะดี' เพื่อสำรวจสถานการณ์หลังจากคำสั่งดังกล่าว พบว่าที่นั่นได้กลายเป็นที่รกร้าง ไม่มีการดำเนินกิจกรรมใดๆ อีกต่อไป โรงเรือนที่เคยใช้สำหรับการรักษายังคงอยู่ในสภาพเดิม แต่ไม่มีผู้คนอยู่อาศัย
ในขณะที่อาจารย์น้องหญิงและคณะยังคงไม่กลับมา ชาวบ้านในพื้นที่ได้เริ่มทำกิจกรรมประจำวันของตนเอง โดยมีการขุดร่องระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมขังจากฝนที่ตกหนักในช่วงนั้น
ด้วยการหายตัวไปของอาจารย์น้องหญิงและคณะ มีการพูดคุยกันในชุมชนเกี่ยวกับแผนการขออนุญาตให้ 'แดนธรรมสุขาววะดี' เป็นสำนักสงฆ์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญสำหรับสถานที่นี้
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจนำไปสู่การเริ่มต้นใหม่ที่สอดคล้องกับกฎหมายและมาตรฐานที่กำหนดไว้ และอาจเป็นการสร้างความสงบสุขให้กับชุมชนที่นั่น
การรักษาด้วยคลื่นพลังบุญที่ 'แดนธรรมสุขาววะดี' ได้ถูกตรวจสอบอย่างละเอียดโดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี และพบว่าไม่ได้มีการขึ้นทะเบียนหรือรับอนุญาตตามที่กฎหมายกำหนด
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโรคในประเทศไทยมีความเข้มงวด และการดำเนินการที่ไม่ได้รับอนุญาตอาจนำไปสู่โทษทางกฎหมายที่รุนแรง ซึ่งเป็นการยืนยันถึงความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อความปลอดภัยของประชาชน