ไรเดอร์ถูกทำร้ายอย่างโหดร้าย: ตำรวจเร่งล่าคนร้ายเพื่อนำตัวมาลงโทษ

Oct 19, 2024 at 12:02 AM

ไรเดอร์ถูกทำร้ายอย่างโหดร้าย ตำรวจเร่งล่าคนร้ายให้ได้ตัว

จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพของคุณลุง Rider ที่มีบาดแผลบริเวณหางคิ้วข้างซ้ายและตาซ้ายปูดบวม ซึ่งเป็นผลจากการถูกทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง ทำให้เกิดความสะเทือนใจในหมู่ผู้ใช้โซเชียลมีเดีย และเป็นประเด็นที่ตำรวจให้ความสำคัญในการติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้ตัว

ไรเดอร์ถูกทำร้ายอย่างโหดร้าย ต้องการความเป็นธรรม

ลุงชัยพรเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ลุงชัยพร ปุ่นโหมด อายุ 64 ปี เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 16 ตุลาคม ช่วงเวลาประมาณ 21.30 น. ขณะที่ตนขับรถจักรยานยนต์ไปส่งอาหารให้ลูกค้าบริเวณห้างสรรพสินค้าเวสเกต หลังจากนั้นขับขี่รถจักรยานยนต์มาทางถนนกาญจนาภิเษกขาเข้า ปรากฏว่ามีรถตู้ยี่ห้อฮุนได สีดำ รุ่นเก่า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับปาดหน้าและชะลออยู่ด้านหน้าตน พร้อมกับบีบแตร ส่วนด้านหลังมีรถกระบะ สีบรอนซ์เงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน อีกคันหนึ่งขับขี่ตามมาและบีบแตรไล่ตน จู่ๆ รถตู้คันหน้าก็เบรกกะทันหัน ทำให้ตนเฉี่ยวท้ายรถตู้ จากนั้นจึงจอดรถแล้วลงไปพูดคุยเจรจากัน

ถูกทำร้ายร่างกายและถูกปล้น

ปรากฏว่ารถกระบะที่ขับตามมาก็ได้ขับมาปิดประกบตน ส่วนคนขับรถตู้สวมเสื้อสีขาว ถามว่ารู้ไหมว่ากูเป็นใคร และมีการห้อยบัตรคล้ายเจ้าหน้าที่ แล้วบอกให้ตนนำใบขับขี่ออกมาให้ดู จึงได้หยิบใบขับขี่ออกมาให้ จากนั้นชายที่ขับรถตู้ก็บอกว่าให้ตนชดใช้ค่าเสียหาย 5,000 บาท จึงบอกว่าให้ไปเคลียร์กันที่สถานีตำรวจ จังหวะนั้นคนขับรถกระบะสวมเสื้อสีดำก็เดินลงมา แล้วกระชากกระเป๋าตังค์ของตนไป หยิบเงินในกระเป๋าตังค์ที่มีอยู่ประมาณ 1,500 บาทไป ขณะที่ตนกำลังหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาก็ถูกชายคนขับรถตู้แย่งไปแล้วชกเข้าที่เบ้าตาซ้ายของตนจนเลือดอาบหน้า แล้วคืนโทรศัพท์มือถือให้กับตน ก่อนที่จะขับขี่รถยนต์หลบหนีไปทั้ง 2 คัน

ขอความช่วยเหลือจากกลุ่มไรเดอร์

ตนจึงเก็บข้าวของที่ร่วงหล่น แล้วขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปที่ปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 400 เมตร ซึ่งจะมีกลุ่มไรเดอร์ที่ตนรู้จักจอดอยู่ เพื่อขอความช่วยเหลือ จนเจ้าหน้าที่กู้ภัยเดินทางมา แล้วพาส่งโรงพยาบาล

อาการบาดเจ็บรุนแรง

แพทย์แจ้งว่าคิ้วแตกเย็บ 5 เข็ม กระดูกบริเวณเบ้าตาแตกร้าว ตอนนี้ต้องกลับมาพักฟื้นที่บ้านก่อน เพื่อให้แผลบริเวณคิ้วหาย แล้วไปรักษาอาการบาดเจ็บภายในดวงตา ซึ่งมีความเสี่ยงว่าอาจตาบอดได้

ผู้ก่อเหตุมีเจตนาปล้น

ลุงชัยพรยังบอกอีกว่า ตนมั่นใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้ก่อเหตุมีวัตถุประสงค์ที่จะตบทรัพย์ ไม่ได้มีการขับขี่รถจักรยานยนต์ ปาดหน้าหรือมีปัญหากันมาก่อน เพราะเท่าที่ตนสังเกต รถตู้ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนรถกระบะก็ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และทั้ง 2 คันขับมาประกบตน พอได้เงินไปก็ขับขี่รถ หลบหนีไปเลย หากเป็นอุบัติเหตุ หรือไม่พอใจการบนท้องถนน ก็ต้องเรียกประกันหรือว่าไปคุยกันที่สถานีตำรวจ

ตำรวจเร่งติดตามคนร้าย

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางใหญ่ ได้ลงพื้นที่มาที่บ้านพักของคุณลุงชัยพรเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม โดยแจ้งกับคุณลุงชัยพรและทีมข่าวว่าเบื้องต้นได้หลักฐานจากกล้องวงจรปิดมาระดับหนึ่ง แล้วกำลังไล่ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี เชื่อว่าใช้เวลาไม่นานสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้แน่นอน