ไทยเตรียมศึกษาการบริหารจัดการฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมกีฬาในประเทศ

Oct 17, 2024 at 3:00 AM
Single Slide

ไทยเตรียมศึกษาการบริหารจัดการฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมกีฬาในประเทศ

คณะกรรมาธิการกีฬาของสภาผู้แทนราษฎรมีแผนเดินทางไปศึกษาดูงานเกี่ยวกับการบริหารจัดการสถานที่จัดการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพในระดับนานาชาติ ณ สหราชอาณาจักร หรือ "ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก" ในช่วงเดือนเมษายน 2568 เพื่อนำมาพัฒนาอุตสาหกรรมกีฬาในประเทศไทย

ก้าวสู่ความเป็นเลิศด้านการบริหารจัดการกีฬาระดับโลก

การเตรียมความพร้อมสู่การศึกษาดูงานพรีเมียร์ลีก

คณะกรรมาธิการกีฬาของสภาผู้แทนราษฎรได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องการเดินทางไปศึกษาดูงานต่างประเทศ โดยที่ประชุมมีมติให้เดินทางไปศึกษาดูงานเกี่ยวกับการบริหารจัดการสถานที่จัดการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพในระดับนานาชาติ ณ สหราชอาณาจักร หรือ "ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก" ในช่วงเดือนเมษายน 2568 เพื่อนำมาพัฒนาอุตสาหกรรมกีฬาในประเทศไทย คณะกรรมาธิการกีฬาจะมีการหารือในรายละเอียดต่อไป

องค์ประกอบของคณะกรรมาธิการกีฬา

คณะกรรมาธิการการกีฬาประกอบไปด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 14 คน ได้แก่ นายปริญญา ฤกษ์หร่าย ประธานคณะกรรมาธิการ, นายจิรวัฒน์ ศิริพานิชย์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่หนึ่ง, นายชิตวัน ชินอนุวัฒน์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สอง, นายวิชัย สุดสวาสดิ์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สี่, นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่ห้า, นายวัชระพล ขาวขำ โฆษกคณะกรรมาธิการ, นายองอาจ ฉัตรชัยพลรัตน์ โฆษกคณะกรรมาธิการ, นายวิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก โฆษกคณะกรรมาธิการ, นายพิชัย แจ้งจรรยาวงศ์ กรรมาธิการ, นายธเนศ เครือรัตน์ กรรมาธิการ, นางนุชนาถ จารุวงษ์เสถียร กรรมาธิการ, นายสุไลมาน บือแนปีแน กรรมาธิการ, นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ กรรมาธิการ และนางสุพัชรี ธรรมเพชร เลขานุการคณะกรรมาธิการ

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการศึกษาดูงานพรีเมียร์ลีก

การเดินทางไปศึกษาดูงานเกี่ยวกับการบริหารจัดการสถานที่จัดการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพในระดับนานาชาติ ณ สหราชอาณาจักร หรือ "ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก" จะช่วยให้คณะกรรมาธิการกีฬาได้เรียนรู้แนวทางการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาอุตสาหกรรมกีฬาในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการบริหารจัดการสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาระดับอาชีพ การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ชม และการสร้างรายได้จากการจัดการแข่งขันกีฬา ซึ่งจะช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของวงการกีฬาไทยให้อยู่ในระดับสากล