ไทยก้าวสู่ความเป็นมหาอำนาจอาหารสัตว์เลี้ยงระดับโลก
Oct 22, 2024 at 9:28 AM
ไทยเป็นมหาอำนาจอาหารสัตว์เลี้ยงระดับโลกประเทศไทยกำลังก้าวขึ้นเป็นผู้ส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงชั้นนำของโลก โดยมีส่วนแบ่งตลาดส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงถึง 8.39% ของมูลค่าการส่งออกทั่วโลก ซึ่งเป็นอันดับที่ 4 ของโลก รองจากเยอรมนี สหรัฐอเมริกา และฝรั่งเศส ทั้งนี้ ตลาดสัตว์เลี้ยงในจีนถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงสำหรับผู้ประกอบการไทย โดยจีนเป็นตลาดส่งออกอันดับที่ 13 ของไทย และมีแนวโน้มการขยายตัวที่น่าสนใจ
ไทยก้าวสู่ความเป็นมหาอำนาจอาหารสัตว์เลี้ยงระดับโลก
ภาพรวมการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงของไทย
ในปี 2566 ไทยมีมูลค่าการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงรวม 2,092.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (72,250 ล้านบาท) ซึ่งหดตัวลง 15.0% จากปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2567 ไทยมีมูลค่าการส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นถึง 34.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดส่งออกสำคัญของไทย ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น มาเลเซีย อิตาลี และออสเตรเลีย ซึ่งมีการขยายตัวที่ดีในช่วงเวลาดังกล่าวจีน ตลาดส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงที่น่าจับตามอง
แม้ในปี 2566 จีนจะเป็นตลาดส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงอันดับที่ 13 ของไทย โดยมีมูลค่าการส่งออก 38.0 ล้านเหรียญสหรัฐ (1,310 ล้านบาท) คิดเป็น 1.82% ของมูลค่าการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงของไทย แต่ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2567 การส่งออกไปยังจีนกลับมาขยายตัวถึง 9.0% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยมีมูลค่าการส่งออก 27.1 ล้านเหรียญสหรัฐ (974 ล้านบาท) นอกจากนี้ ไทยยังมีส่วนแบ่งมูลค่าการนำเข้าอาหารสัตว์เลี้ยงของจีนเพิ่มขึ้นจาก 7.09% เป็น 9.38% ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2567 ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการขยายตลาดส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยในจีนตลาดสัตว์เลี้ยงในจีน: โอกาสที่น่าสนใจสำหรับผู้ส่งออกไทย
ในปี 2566 จีนมีจำนวนสุนัขและแมวในเขตเมืองทั่วประเทศมากกว่า 120 ล้านตัว ซึ่งเพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อนหน้า ส่งผลให้ความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มสูงขึ้น โดยมูลค่าการบริโภคอาหารแมวเพิ่มขึ้น 7.6% คิดเป็น 71,000 ล้านหยวน (ประมาณ 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ) และมูลค่าการบริโภคอาหารสุนัขเพิ่มขึ้น 4.0% คิดเป็น 74,800 ล้านหยวน (ประมาณ 10,500 ล้านเหรียญสหรัฐ) นอกจากนี้ ยังพบว่าเจ้าของสัตว์เลี้ยงในจีนส่วนใหญ่อยู่ในเมืองรองระดับสอง ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ทั้งนี้ มณฑลเหลียวหนิงถือเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์เลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน และมีการเติบโตอย่างรวดเร็วกลยุทธ์การเจาะตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในจีน
ผู้ผลิตและผู้ส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยควรให้ความสำคัญกับการเจาะตลาดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน โดยเฉพาะในเมืองรองระดับสอง ซึ่งมีจำนวนเจ้าของสัตว์เลี้ยงมากที่สุด โดยควรศึกษารสนิยมและความต้องการของผู้บริโภคในตลาดนั้น ๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและมาตรฐานให้กับสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงไทย นอกจากนี้ ผู้ผลิตควรให้ความสำคัญกับประเด็นด้านความยั่งยืนตลอดห่วงโซ่การผลิต ทั้งด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และแรงงาน เพื่อให้อาหารสัตว์เลี้ยงไทยเป็นที่ยอมรับในระดับสากล