เหตุแผ่นดินไหวในประเทศเมียนมาได้ก่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนตามมา (อาฟเตอร์ช็อก) ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการเดินทางโดยระบบขนส่งมวลชนอย่างรถไฟฟ้า การปิดบริการชั่วคราวของรถไฟฟ้าเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยทำให้เกิดภาวะจราจรติดขัดอย่างรุนแรงในช่วงเย็นของวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 ผู้คนจำนวนมากเลือกใช้เส้นทางถนนหรือแม้กระทั่งการเดินเท้าเพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าจากการเดินทาง
ในช่วงเวลาบ่ายจนถึงเย็นของวันที่กล่าวถึง ระบบรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ ได้หยุดให้บริการชั่วคราว เพื่อประเมินความเสียหายและความปลอดภัยของโครงสร้างรางและรถไฟฟ้า การปิดบริการนี้มีกำหนดจะสิ้นสุดในตอนเช้าของวันที่ 29 มีนาคม ส่งผลให้การจราจรบนถนนสายหลัก เช่น ถนนวิภาวดีรังสิต รัชดาภิเษก และลาดพร้าว เต็มไปด้วยรถยนต์ที่เคลื่อนตัวอย่างช้าๆ นอกจากนี้ยังมีผลกระทบจากเหตุเครนถล่มบนถนนดินแดง ซึ่งยิ่งเพิ่มความหนาแน่นของการจราจร ในสภาพอากาศเย็นสบายของฤดูใบไม้ผลิที่กำลังเข้ามา ประชาชนหลายคนเลือกเดินเท้าแทนการใช้ยานพาหนะ ทำให้ทางเท้าเต็มไปด้วยผู้คนที่พยายามหาวิธีการเดินทางที่รวดเร็วที่สุด
เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการเตรียมพร้อมในการเผชิญเหตุฉุกเฉินสำหรับระบบขนส่งมวลชนในเมืองใหญ่ การปิดระบบขนส่งสาธารณะชั่วคราวอาจจำเป็นเพื่อความปลอดภัย แต่ก็ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างมาก ดังนั้นการวางแผนสำรองและการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นในอนาคต