การพัฒนาด้านยานยนต์ไฟฟ้าและการปรับปรุงระบบไฮบริดกำลังเข้าสู่จุดสูงสุดในประเทศไทย โดยมีแผนเปิดตัวหลากหลายรุ่นภายในปี 2025 แบรนด์ชั้นนำหลายแห่งได้เตรียมพร้อมสำหรับการนำเสนอเทคโนโลยีล่าสุดและความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงด้านราคาและการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ๆ ก็กลายเป็นประเด็นสำคัญที่สร้างความสนใจให้แก่ผู้บริโภค

การเปลี่ยนแปลงของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) หลายแบรนด์ได้นำเสนอเทคโนโลยีที่โดดเด่นพร้อมระยะทางการขับขี่ที่เพิ่มมากขึ้น เช่น GAC AION, BYD และ MG ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้แสดงถึงความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก

การพัฒนานวัตกรรมของรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2025 จะเห็นได้จากแบรนด์ต่างๆ ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อาทิเช่น GAC AION V ที่มีระยะทางขับขี่กว่า 602 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง หรือแม้กระทั่ง BYD Sealion 7 ที่สามารถรองรับการเดินทางไกลถึง 567 กิโลเมตรในมาตรฐาน NEDC นอกจากนี้ยังมีรถยนต์ MPV ไฟฟ้าจากแบรนด์ MG MIFA 7 ที่ให้ระยะทางขับขี่ถึง 570 กิโลเมตร ซึ่งตอบโจทย์การเดินทางครอบครัวขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีการปรับราคาลงเพื่อทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น

รถยนต์ไฮบริดและเครื่องยนต์สันดาปภายในยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

แม้ว่ากระแสของรถยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่รถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่สำคัญในตลาด โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่มองหาความคุ้มค่าและประสิทธิภาพในการใช้งาน เช่น Toyota Yaris Cross HEV และ Honda Civic FE ที่มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่เสริมสมรรถนะและความปลอดภัย

รถยนต์ไฮบริดยังคงครองใจผู้บริโภคจำนวนมาก โดยเฉพาะในรุ่นยอดนิยมอย่าง Toyota Yaris Cross HEV ที่มียอดจดทะเบียนสูงในช่วงต้นปี 2024 นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงรุ่นใหม่ของ Honda Civic FE ที่เพิ่มระบบความปลอดภัย BSM เข้าไป แม้ว่าจะยังไม่ครอบคลุมทุกรุ่นก็ตาม อีกทั้งยังมี KIA EV5 ที่เพิ่มระยะทางขับขี่สูงสุดถึง 665 กิโลเมตรในมาตรฐาน NEDC พร้อมการปรับราคาเพื่อให้เหมาะสมกับตลาด ขณะเดียวกัน Ford Everest SPORT Adventure Pack ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การขับขี่แบบผจญภัย