ภาพรวมตลาดรถยนต์ในประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างหนักในปี 2568 เนื่องจากปัจจัยเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนและผลกระทบจากเหตุการณ์ระดับโลก ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์โดยรวมอาจลดลงเหลือประมาณ 5.3 แสนคัน ซึ่งแสดงถึงการหดตัวเกือบ 7.5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยปัญหาหลักมาจากความไม่มั่นคงทางการเงิน การเพิ่มขึ้นของภาษีนำเข้า และสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ส่งผลกระทบต่อรายได้ภาคการท่องเที่ยว
แม้ว่าตลาดรถยนต์ทั่วไปจะประสบปัญหา แต่กลุ่มรถยนต์ xEV (รถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริด) กลับสร้างความสำเร็จอย่างโดดเด่น โดยคาดว่าจะครองส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 48% ในปีนี้ สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีใหม่และความประหยัดในด้านพลังงาน นอกจากนี้ แบรนด์รถยนต์จากประเทศจีนที่เน้นการพัฒนาเทคโนโลยี BEV (รถยนต์ไฟฟ้า 100%) ก็สามารถขยายฐานลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว โดยมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 19% หลังจากการแสดงผลงานในงานมอเตอร์โชว์ล่าสุด
ความเปลี่ยนแปลงในตลาดยานยนต์ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความสามารถในการปรับตัวของอุตสาหกรรม แต่ยังแสดงให้เห็นถึงโอกาสใหม่ ๆ ที่เกิดจากความต้องการพลังงานสะอาด ภาครัฐควรเร่งดำเนินมาตรการสนับสนุน เช่น การเจรจาลดภาษีนำเข้า การส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรม และโครงการกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ เพื่อช่วยให้ตลาดรถยนต์ฟื้นตัวและพัฒนาไปในทิศทางที่ยั่งยืน อนาคตของยานยนต์พลังงานสะอาดไม่เพียงแค่ตอบโจทย์ทางเศรษฐกิจ แต่ยังช่วยสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน