แค่ปรับเท่ากับช่วยโลก กับ “5 พฤติกรรมเพื่อสุขภาพดีอย่างยั่งยืน”

Sep 29, 2024 at 9:04 AM
Slide 4
Slide 1
Slide 2
Slide 3
Slide 4
Slide 1

ปลุกกระแสรักษ์โลก ไร้โรค ในงาน SUSTAINABILITY EXPO 2024

ในงาน SUSTAINABILITY EXPO 2024 (SX 2024) มหกรรมความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ได้รับเกียรติจาก "คุณหมอแอมป์" นายแพทย์ ตนุพล วิรุฬหการุญ ประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก และ บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) มาร่วมพูดคุยให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ ไขคำตอบ สุขภาพแย่ทำให้โลกร้อนขึ้นได้อย่างไร? พร้อมเผยเคล็ดลับสุขภาพ "5 พฤติกรรมเพื่อสุขภาพดีอย่างยั่งยืน" ทำอย่างไร

ปรับพฤติกรรมเพื่อสุขภาพดีและโลกยั่งยืน

สุขภาพแย่ทำให้โลกร้อนขึ้น

คุณหมอแอมป์ เผยว่า โลกที่เราอยู่ก็เหมือนตัวเรา ถ้าเขาป่วย เราก็ป่วยด้วย ถ้าเขาฝุ่นเยอะ เราต้องหายใจเข้าไป ยิ่งเราทำให้โลกร้อนเท่าไหร่ เรายิ่งเจอมหันตภัยมากขึ้นเท่านั้น การที่โลกสุขภาพแย่ลง ส่งผลให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมและภัยพิบัติต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเราโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นโรคติดเชื้อ โรคระบาด โรคที่เกิดจากภัยธรรมชาติ หรือแม้แต่ปัญหาสุขภาพจิตจากความเครียด ซึ่งล้วนแต่เป็นผลพวงจากการที่โลกกำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์ด้านสิ่งแวดล้อม

ปัจจัยที่ทำให้โลกร้อนและป่วย

ประเด็นดังกล่าวประกอบด้วยหลายปัจจัย อาทิ ป่วย = สร้างขยะ หากเราป่วยผลพวงจากการที่เราป่วยคือการสร้าง "ขยะ" ขยะจากยา ขยะจากอุปกรณ์การแพทย์ ไซริงค์ฉีดยา ต่างๆ มากมาย ยิ่งสังคมผู้สูงอายุมาเร็ว ปัจจุบันในบ้านเรามีคนอายุเกิน 60 ปี เกิน 20% เรียกว่า สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ โดยในปี 2576 จะขึ้นมาเป็น "สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด" ก็คือเกิน 28% แล้วถ้าคนอายุเยอะแล้วเกิดป่วยหมดเลย แต่ถ้าคนอายุเกิน 60 เยอะ แต่แข็งแรง ก็จะถือว่าเราประหยัดทรัพยากร นอกจากนี้ กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรความดัน โรคไขมัน โรคอัมพฤกษ์ โรคอัมพาต โรคเครียด ปัจจุบันในเมืองไทยมีคนเสียชีวิตด้วย "โรครู้อย่างนี้" หรือ โรคที่เกิดจากพฤติกรรม 380,400 คน/ปี เฉลี่ย 44 คน/ชั่วโมง โดยเฉพาะโรคอ้วน หากเราไม่อ้วนเราก็ป่วยน้อยแล้ว

5 พฤติกรรมเพื่อสุขภาพดีและโลกยั่งยืน

1. อาหารจากพืช อาหารที่ยั่งยืน การลดกินเนื้อสัตว์และหันมากินผักมากขึ้น เป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น การกินแบบ เฮลตี้ อีตติ้ง, อาหารที่กินแล้วไม่อ้วน รวมไปถึงการขึ้นภาษีอาหารประเภทจังก์ฟู้ด ขึ้นภาษีน้ำตาล จะช่วยให้เราลดการบริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และลดปัญหาโรคอ้วนซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ2. การออกกำลังกาย กิจกรรมที่ยั่งยืน การออกกำลังกายช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ เบาหวาน มะเร็งได้เยอะมาก และยังช่วยให้แก่ช้าลง 9 ปี นอกจากนี้ การออกกำลังกายยังช่วยลดการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น การเดินหรือปั่นจักรยานแทนการขับรถ3. อากาศ ปัจจุบัน PM 2.5 เป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งคนเดินไปเดินมาสูดดม PM 2.5 เทียบเท่าสูบบุหรี่ 4 มวนต่อวัน ส่งผลเป็นโรคปอด มะเร็ง ดังนั้น การรณรงค์ให้ลดมลพิษทางอากาศจึงเป็นเรื่องสำคัญ4. การนอนหลับที่ดี การนอนเป็นปัจจัยสำคัญต่อสุขภาพ หากเรานอนไม่ดี จะส่งผลให้เราอ้วน ป่วย และสมรรถภาพร่างกายเสื่อมถอย ดังนั้น การดูแลให้มีการนอนหลับที่เพียงพอและมีคุณภาพจึงเป็นสิ่งจำเป็น5. จิตอาสา การมีจิตอาสาและมีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือการทำกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคมและโลกใบนี้ ซึ่งจะช่วยให้เราและโลกมีสุขภาพที่ดีขึ้น