เมื่อไม่นานมานี้ เกิดเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทในจังหวัดตราด ซึ่งทำให้ผู้ชายคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส สืบเนื่องจากการขับรถเร็วเกินไปในซอยเล็ก ๆ โดยฝ่ายที่กระทำการใช้ความรุนแรงยืนยันว่าเพียงแค่ต้องการสอนบทเรียนให้แก่ผู้ขับขี่ แต่สุดท้ายแล้ว การตอบโต้ด้วยอารมณ์และความรุนแรงกลับกลายเป็นปัญหาทางกฎหมายและสร้างความเสียหายต่อทั้งสองฝ่าย
ในคืนฤดูร้อนที่เงียบสงบของจังหวัดตราด เมื่อเวลาประมาณ 9.20 น. ของวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2568 เหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นในซอยวัดคลองเพชร ตำบลวังกระแจะ อำเภอเมือง จังหวัดตราด ตำรวจภูธรจังหวัดตราดรับแจ้งว่ามีการทะเลาะวิวาทจนทำให้มีผู้บาดเจ็บ หลังจากนั้นตำรวจสายตรวจพร้อมด้วยทีมกู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือจังหวัดตราดได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบนายธีรพงษ์ อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นหัวหน้าคนงานที่มีหน้าที่ขับรถรับส่งลูกน้องของเขา กำลังประสบกับบาดแผลที่ศีรษะจากการถูกโจมตีโดยชายอายุ 55 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในซอยเดียวกัน ชายคนดังกล่าวอ้างว่านายธีรพงษ์ขับรถผ่านซอยหน้าบ้านเขาด้วยความเร็วอย่างต่อเนื่อง และบางครั้งยังทำให้เศษแก้วกระจายเต็มถนน ในวันนั้นเองทั้งสองฝ่ายได้เผชิญหน้ากันจนนำไปสู่การต่อสู้
ตำรวจสายตรวจได้เข้ามาไกล่เกลี่ยและอธิบายให้ชายผู้ก่อเหตุทราบว่า การลงโทษด้วยความรุนแรงไม่ใช่วิธีที่เหมาะสม หากไม่พอใจควรแจ้งตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือแทน ในระหว่างการเจรจา นายธีรพงษ์ได้แสดงความเสียใจและยืนยันว่าจะหลีกเลี่ยงการขับรถผ่านซอยนี้อีก แต่สถานการณ์กลับตึงเครียดขึ้นเมื่อพี่สาวของนายธีรพงษ์มาถึงที่เกิดเหตุและเกือบจะมีปากเสียงกับชายผู้ก่อเหตุ สุดท้ายตำรวจจำเป็นต้องนำตัวชายผู้ก่อเหตุไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบของการตอบสนองด้วยอารมณ์และการขาดการสื่อสารที่ดีระหว่างกัน การทะเลาะวิวาทอาจเริ่มต้นจากปัญหาเล็ก ๆ แต่หากไม่ได้รับการจัดการที่เหมาะสม ก็สามารถขยายวงกว้างจนกลายเป็นปัญหาระดับใหญ่ได้ การฟังและเข้าใจกันมากขึ้น รวมถึงการใช้ช่องทางที่ถูกต้องในการแก้ไขปัญหา จะช่วยลดโอกาสเกิดความขัดแย้งในอนาคตได้อย่างแน่นอน