กองกลางดาวรุ่งของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่าง เมสัน เมาท์ สร้างผลงานโดดเด่นในเกมยูโรปา ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสอง หลังทำประตูแรกในสนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ได้สำเร็จ นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้ทำประตูชัยจากครึ่งสนามในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ส่งผลให้ "ผีแดง" เปิดบ้านเอาชนะ แอธเลติก บิลเบา 4-1 และคว้าตั๋วเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศด้วยประตูรวม 7-1
แมตช์ดังกล่าว เมาท์ ถูกส่งลงสนามในฐานะตัวสำรองในนาทีที่ 62 แทนที่ มานูเอล อูการ์เต โดยเขาใช้เวลาเพียงไม่นานในการแสดงฝีเท้าของเขา เมื่อสามารถพลิกสถานการณ์ของทีมด้วยการปั่นโค้งเสียบเสาไกลในอีก 10 นาทีถัดมา ทำให้คะแนนกลับมาเสมอ 1-1 ก่อนที่จะกลายเป็นฮีโร่ด้วยการทำประตูที่สองจากการยิงไกลในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+1
หลังจบเกม เมาท์ ได้เผยว่าเขาต้องทำงานหนักในแต่ละวันเพื่อรอโอกาส และเมื่อมีโอกาสเขาก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงเกมให้ได้ เขาบอกว่า "ผมซ้อมหนักเสมอ ผมพยายามมองโลกในแง่ดี และเมื่อโอกาสมาถึง ผมจะพยายามใช้มันให้เกิดประโยชน์มากที่สุด" นอกจากนี้ เขายังยอมรับว่านี่คือค่ำคืนที่เขาเฝ้ารอคอยมาอย่างยาวนาน และการได้กลับไปยังบิลเบาในรอบชิงชนะเลิศเป็นช่วงเวลาที่พิเศษสำหรับเขา
สำหรับประตูที่สองของเขา เมาท์ ระบุว่าเขาสังเกตเห็นว่าผู้รักษาประตูออกมาห่างจากเส้นประตูมากกว่าปกติ จึงตัดสินใจยิงทันทีเมื่อบอลมาถึงเท้าของเขา เขากล่าวเสริมว่า "ผมไม่อยากให้บอลมาที่เท้าซ้าย เพราะมันอาจทำให้พลาดได้ ผมแค่พยายามยิงให้เข้ากรอบไว้ก่อนเหมือนตอนทำประตูแรก"
ความสำเร็จในค่ำคืนนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เมสัน เมาท์ กลายเป็นฮีโร่ของทีมเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความตั้งใจของเขาที่จะสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมในนามสโมสร ขณะเดียวกัน การได้เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในรายการยูโรปา ลีกก็เป็นเครื่องยืนยันถึงความสามารถของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้