เหตุการณ์การเฉี่ยวชนระหว่างรถเก๋งสีแดงและรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ได้สร้างความกังวลในหมู่ผู้ใช้รถใช้ถนน ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้ให้รายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมเตรียมดำเนินคดีฐานพยายามฆ่า เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่กระทบต่อผู้ประสบเหตุเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงพฤติกรรมที่อาจเป็นภัยต่อสังคม โดยเฉพาะเมื่อมีการแชร์คลิปวิดีโอที่แสดงการขับขี่อย่างประมาทบนโซเชียลมีเดีย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนถนนราชพฤกษ์เมื่อเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา เปิดเผยถึงพฤติกรรมการขับขี่อย่างประมาทที่เกือบจะทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้บรรยายถึงความเสี่ยงที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ซึ่งเขาสามารถประคองรถไว้ได้ทันเวลา ก่อนที่จะพบว่ารถเก๋งคันที่ก่อเหตุมีกระจกด้านซ้ายแตก ส่วนรถจักรยานยนต์มีรอยถลอกเล็กน้อย
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้เรียกร้องความเป็นธรรม และแสดงความกังวลต่อพฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่น ๆ แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะอ้างว่าได้บีบแตรเตือนแล้ว แต่ผู้ประสบเหตุมองว่าการบีบแตรแบบกระชั้นชิดทำให้เขาไม่สามารถหลบหนีได้ทัน การพูดคุยกันในที่เกิดเหตุไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากทั้งสองฝ่ายมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน จนนำไปสู่การแยกทางและปล่อยให้ประกันเป็นผู้จัดการ
ภายหลังจากการตรวจสอบคลิปวิดีโอจากกล้องหน้ารถ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้ตระหนักถึงความเสี่ยงที่แท้จริงในการขับขี่อย่างประมาทของรถเก๋งคันดังกล่าว เขาได้ตัดสินใจที่จะแจ้งความฐานพยายามฆ่า เนื่องจากมองว่าพฤติกรรมนี้เป็นภัยต่อสังคมและไม่ควรปล่อยให้ผ่านไปโดยไม่มีการลงโทษ
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้สนับสนุนการดำเนินคดี โดยมองว่าพฤติกรรมการขับขี่อย่างประมาทและแชร์คลิปวิดีโอนั้นเป็นภัยต่อสังคม นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องอาวุธปืนที่ปรากฏในโพสต์ของผู้ขับขี่รถเก๋งคันก่อเหตุ ซึ่งอาจนำไปสู่ความผิดฐานพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ ขณะนี้ได้มีการรวบรวมหลักฐานเพื่อสนับสนุนคดี และหวังว่ากระบวนการทางกฎหมายจะช่วยสร้างบรรทัดฐานในการขับขี่อย่างปลอดภัยบนท้องถนน