เทศกาลงามกรุงเทพฯ ประจำปี 2568 เป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการเล่นกีฬาและการออกกำลังกายในหมู่ประชาชน โดยมีการแข่งขันหลากหลายประเภท เช่น ฟุตซอล, บาสเกตบอล 3x3, เปตอง และพิคเคิลบอล งานดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-18 พฤษภาคม 2568 ในสถานที่สำคัญหลายแห่งของกรุงเทพฯ เช่น ศูนย์กีฬาเบญจกิติ, ลานคนเมือง เสาชิงช้า และศูนย์กีฬาวชิรเบญจทัศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่และสร้างโอกาสให้กับเยาวชนในการพัฒนาทักษะทางกีฬา

การเปิดงานเทศกาลงามกรุงเทพฯ และความสำคัญของการสนับสนุนกีฬา

ในบรรยากาศอบอุ่นของฤดูร้อนที่ผ่านไปไม่นาน นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภากรุงเทพมหานคร ได้เป็นประธานในพิธีเปิดเทศกาลงามกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ณ สนามสเก็ตบอร์ด (Red Bull Skate Park) ภายในศูนย์กีฬาเบญจกิติ โดยมีนายวิพุธ ศรีวะอุไร รองประธานสภากรุงเทพมหานคร คนที่หนึ่ง มาร่วมพิธีด้วย

ประธานสภากรุงเทพมหานครได้เน้นย้ำถึงบทบาทของสภาในการผลักดันงบประมาณสำหรับการปรับปรุงศูนย์กีฬาต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนมีสถานที่เล่นกีฬาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีแผนในการส่งเสริมกิจกรรมกีฬา เช่น การแข่งขันกีฬาประจำชุมชน การแข่งขันอีสปอร์ต และโครงการอื่น ๆ เพื่อทำให้กรุงเทพมหานครกลายเป็นเมืองแห่งกีฬาที่มีอนาคตสดใสสำหรับเด็กและเยาวชน

เทศกาลงามกรุงเทพฯ ประกอบด้วยการแข่งขันกีฬาหลายประเภทที่จัดขึ้นในสถานที่ต่าง ๆ รอบกรุงเทพฯ รวมถึงไฮไลต์สำคัญที่ลานคนเมือง เสาชิงช้า ระหว่างวันที่ 17-18 พฤษภาคม 2568 ซึ่งจะมีการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของแต่ละประเภทกีฬา พร้อมกิจกรรมสนุกสนานมากมาย เช่น เกมลุ้นรางวัล, การแสดงดนตรีจากกลุ่ม Bangkok Street Performance และร้านอาหารฟู้ดทรัคมากกว่า 15 ร้านค้า

ประชาชนสามารถเข้าชมการแข่งขันได้ที่สนามแข่งขันโดยตรง หรือติดตามผ่าน Facebook Live เพจกีฬากรุงเทพ

การจัดเทศกาลงามกรุงเทพฯ ไม่เพียงแต่เป็นการส่งเสริมสุขภาพของประชาชนเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสในการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่อีกด้วย

แรงบันดาลใจจากการส่งเสริมกีฬาในระดับชุมชน

เทศกาลงามกรุงเทพฯ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการสนับสนุนกีฬาในระดับชุมชน การที่ภาครัฐให้ความสนใจและลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านกีฬา จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาทักษะทางกีฬาของเยาวชน และอาจนำไปสู่การสร้างนักกีฬาอาชีพในอนาคต

นอกจากนี้ การจัดกิจกรรมเช่นนี้ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งจากผู้เข้าชมงาน การขายสินค้าภายในงาน และการแสดงศักยภาพของชุมชนในด้านต่าง ๆ สุดท้ายแล้ว เทศกาลนี้ไม่ใช่แค่งานกีฬา แต่เป็นการเชื่อมโยงคนในสังคมให้เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมที่สร้างสรรค์