เมื่อคืนวันที่ 31 มีนาคม 2568 เกิดเหตุการณ์สลดใจบริเวณทางเข้าวัดลาดปลาดุก อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี โดยรถยนต์เก๋งพุ่งชนท้ายรถตู้โดยสารสาธารณะ ก่อนจะกระเด็นไปชนรถจักรยานยนต์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตสองราย การสอบสวนเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่าสาเหตุอาจมาจากความเร็วของรถยนต์เก๋งที่มากเกินไป และขาดการคำนึงถึงความปลอดภัยในการขับขี่

รายละเอียดเหตุการณ์

ในคืนที่มืดสนิทและเงียบสงบของฤดูใบไม้ผลิ ถนนสองเลนที่นำไปสู่หมู่บ้านพฤกษา 3 เป็นพยานของโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. รถยนต์เก๋งยี่ห้อ MG 3 สีแดงได้พุ่งชนท้ายรถตู้โดยสารสาย ต.78-17 ในขณะที่รถตู้กำลังชะลอเพื่อให้รถจักรยานยนต์ออกจากซอยวัดลาดปลาดุก หลังจากเกิดการชนครั้งแรก รถยนต์เก๋งได้ไถลไปชนรถจักรยานยนต์ที่อยู่ตรงกลางถนน ส่งผลให้คนขับรถจักรยานยนต์ นายพนมพร อายุ 52 ปี เสียชีวิตทันที นอกจากนี้ คนขับรถยนต์เก๋ง น.ส.พิชญ์อาภา อายุ 55 ปี ก็หมดสติภายในรถและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการให้ข้อมูลของนายธนภัทร อายุ 56 ปี คนขับรถตู้ กล่าวว่าในตอนเกิดเหตุเขาได้หยุดรถเพื่อรอให้รถจักรยานยนต์ข้ามเลน แต่รถยนต์เก๋งที่ตามมาด้วยความเร็วสูงไม่ได้หยุดลง ทำให้เกิดการชนซ้ำและส่งผลให้รถตู้ไถลไปชนรถจักรยานยนต์และร่างของผู้เสียชีวิต ผู้โดยสารในรถตู้ตกใจจนกรีดร้องออกมาทั้งคัน

คุณลุงพลากร ละอองทอง อายุ 66 ปี เจ้าของร้านสเต็กที่เป็นพยานเหตุการณ์ เล่าว่าเขาได้ยินเสียงดังสนั่นเมื่อรถเก๋งชนท้ายรถตู้ จากนั้นรถตู้ก็ไถลไปชนรถจักรยานยนต์ที่กำลังเตรียมข้ามเลน แม้ว่าเขาพยายามเตือนผู้บาดเจ็บไม่ให้ขยับตัว แต่ผู้เสียชีวิตก็ยังพยายามลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ตำรวจจากสถานีตำรวจบางบัวทองได้รีบตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับแพทย์และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความเศร้าโศกแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต และสะท้อนถึงความสำคัญของการขับขี่ด้วยความระมัดระวัง เพื่อลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน

เหตุการณ์นี้ทำให้เราตระหนักถึงความสำคัญของการปฏิบัติตามกฎจราจรและการขับขี่อย่างมีความรับผิดชอบ ทั้งนี้ การใช้ความเร็วเกินกำหนดไม่เพียงแต่เพิ่มความเสี่ยงต่อตนเอง แต่ยังส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้อื่นอีกด้วย หากทุกคนตระหนักและเคารพกฎจราจร เราอาจลดจำนวนเหตุการณ์เช่นนี้ได้ในอนาคต