เมื่อไม่นานมานี้ เกิดเหตุการณ์ที่น่าตกใจขึ้นในจังหวัดชัยภูมิ เมื่อรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ของผู้อำนวยการโรงพยาบาลแห่งหนึ่งพุ่งชนร้านอาหาร ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บสาหัสสองราย เป็นช่างภาพจากสถานีโทรทัศน์ โดยรายงานระบุว่าผู้ขับขี่อาจเมาสุราและพยายามถ่วงเวลาในการตรวจวัดแอลกอฮอล์ในเลือด นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของเขาหลังเกิดเหตุ เช่น การขอใช้เวลานานเพื่อดื่มน้ำและนมเปรี้ยว ก่อนยอมตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์
หลังจากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวมีเครื่องหมายของกระทรวงสาธารณสุข และผู้ขับขี่ได้เข้าร่วมงานเฉลิมฉลองก่อนเกิดเหตุ เขาสารภาพว่าตนเองเมาแต่ไม่ได้ตั้งใจจะหลบหนี และพร้อมรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม การดำเนินการทางกฎหมายยังคงดำเนินไปโดยมีการสอบปากคำและการตรวจสอบระดับแอลกอฮอล์ซ้ำหลายครั้ง
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ขับพุ่งชนร้านอาหารในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ส่งผลให้ทรัพย์สินภายในร้านเสียหายอย่างมาก รวมถึงมีผู้บาดเจ็บสาหัสสองรายที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในฐานะช่างภาพ ทั้งสองคนได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ
การตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบว่ารถคันดังกล่าวมีสัญลักษณ์ของกระทรวงสาธารณสุขติดไว้บนตัวรถ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างผู้ขับขี่กับหน่วยงานภาครัฐ พฤติกรรมของผู้ขับขี่ที่พุ่งชนร้านอาหารโดยไม่มีสัญญาณชะลอตัวสร้างความตกใจให้กับประชาชนในพื้นที่ นอกจากนี้ ผู้เห็นเหตุการณ์ยังให้การว่าผู้ขับขี่มีอาการเมาสุราอย่างเห็นได้ชัด และไม่ได้แสดงความพยายามในการหยุดรถหรือหลีกเลี่ยงการชนแต่อย่างใด
ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่เป็นผู้ขับขี่ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อสาธารณะ โดยยอมรับว่าตนเองเมาสุราหลังจากเสร็จสิ้นงานเฉลิมฉลอง เขาแสดงความตั้งใจที่จะรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด แม้ว่าจะมีการถ่วงเวลาในการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือด แต่สุดท้ายเขาก็ยอมให้ทำการตรวจวัดดังกล่าว
กระบวนการตรวจสอบพบว่าผู้ขับขี่ใช้เวลาถึงสามชั่วโมงในการเตรียมตัวก่อนการตรวจวัด โดยเขาได้ดื่มน้ำและนมเปรี้ยวหลายครั้ง ซึ่งอาจเป็นการทำให้ระดับแอลกอฮอล์ลดลงในระหว่างนั้น อย่างไรก็ตาม หลังจากตรวจวัดหลายครั้ง ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดของเขาอยู่ที่ประมาณ 107 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดอย่างชัดเจน เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงสอบสวนเพิ่มเติมเกี่ยวกับพฤติกรรมและการกระทำของผู้ขับขี่ในคืนดังกล่าว เพื่อประกอบสำนวนคดีที่สมบูรณ์และยุติธรรม