ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อไม่นานมานี้ เกิดเหตุการณ์สะเทือนใจขึ้นเมื่อรถจักรยานยนต์ชนต้นไม้อย่างแรง บนถนนสายหนึ่งในตำบลพนม อำเภอพนม โดยผู้ประสบเหตุมีจำนวนสามคน เป็นหญิงและเด็กสองคนซึ่งเป็นครอบครัวเดียวกัน จากการตรวจสอบพบว่าผู้ขับขี่และผู้โดยสารไม่ได้สวมหมวกนิรภัย และหลังจากเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยพร้อมด้วยรถพยาบาลได้เร่งนำส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน แต่ในเวลาต่อมา มีรายงานว่าสองในสามรายได้เสียชีวิตแล้ว
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงบ่ายของวันที่ 5 เมษายน บริเวณกิโลเมตรที่ 74 หมู่ที่ 7 ตำบลพนม อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 100 สีแดง-ดำ ซึ่งไม่มีป้ายทะเบียน ได้พุ่งชนต้นไม้ข้างทางอย่างแรง ทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารบาดเจ็บสาหัสทั้งหมดสามราย ทันทีที่ได้รับแจ้ง กู้ภัยตาขุน-พนมและทีมแพทย์ฉุกเฉินโรงพยาบาลพนมได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบเหตุทั้งสามคน แต่เนื่องจากความรุนแรงของการชน สองในสามรายซึ่งเป็นแม่และลูกสาวได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
รายละเอียดเพิ่มเติมระบุว่าผู้เสียชีวิตรายแรกคือหญิงวัยประมาณ 35 ปี ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นแม่ของเด็กทั้งสอง โดยเธอได้เสียชีวิตในเวลา 15.43 น. ในขณะที่เด็กหญิงอายุประมาณ 12 ปี ซึ่งคาดว่าเป็นลูกสาวของเธอก็ได้เสียชีวิตเช่นกัน ส่วนเด็กชายวัย 1 ปี ซึ่งเป็นสมาชิกคนสุดท้ายในครอบครัวนี้ ถึงแม้ยังคงมีชีวิตอยู่ แต่อาการของเขาอยู่ในสภาพโคม่าและต้องทำการรักษาต่อที่โรงพยาบาลใหญ่ในเมือง
เหตุการณ์นี้สร้างความเศร้าโศกแก่ประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากการสูญเสียครั้งใหญ่ภายในครอบครัวเดียว นอกจากนี้ยังเป็นสัญญาณเตือนถึงความสำคัญของการสวมใส่อุปกรณ์นิรภัย เช่น หมวกกันน็อก ในการขับขี่รถจักรยานยนต์ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
การสูญเสียครั้งนี้กลายเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับทุกคน โดยเฉพาะผู้ใช้รถใช้ถนน การปฏิบัติตามกฎจราจรและการเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัยจะช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุที่อาจนำไปสู่การสูญเสียชีวิตและความเจ็บปวดของครอบครัว