ตำนานนักแสดงอาวุโสที่ถูกเบี้ยวค่าตัว: เรื่องราวของ "พ่ออี๊ด-สุประวัติ ปัทมสูต"

ในวงการบันเทิงไทย มีนักแสดงอาวุโสหลายคนที่ทุ่มเทให้กับวงการมาอย่างยาวนาน แต่กลับต้องเผชิญกับปัญหาการถูกเบี้ยวค่าตัว ซึ่งเป็นหนึ่งในวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นในวงการละครไทย หนึ่งในนั้นคือ "พ่ออี๊ด-สุประวัติ ปัทมสูต" ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ประจำปี พ.ศ.2553 ที่ล่าสุดได้ออกมาเปิดเผยถึงประสบการณ์ที่ถูกเบี้ยวค่าตัวถึง 2 เรื่อง

ตำนานนักแสดงอาวุโสที่ยังคงต้องเผชิญกับปัญหาการถูกเบี้ยวค่าตัว

ความเป็นมาของ "พ่ออี๊ด-สุประวัติ ปัทมสูต"

พ่ออี๊ด-สุประวัติ ปัทมสูต เป็นนักแสดงอาวุโสที่มีประสบการณ์ในวงการบันเทิงมายาวนาน และได้รับการยกย่องให้เป็น "ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง" ในปี พ.ศ.2553 ซึ่งถือเป็นเกียรติยศอันสูงสุดสำหรับนักแสดง ในวัย 86 ปี พ่ออี๊ดยังคงทุ่มเทให้กับวงการบันเทิงอย่างต่อเนื่อง และเป็นหนึ่งในนักแสดงอาวุโสที่ได้ออกมาเปิดเผยถึงวิกฤตการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในวงการละครไทย

การถูกเบี้ยวค่าตัวของ "พ่ออี๊ด-สุประวัติ ปัทมสูต"

ล่าสุด พ่ออี๊ด ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เปิดเผยว่าตนเองก็ถูกเบี้ยวค่าตัวด้วยเช่นกัน โดยถูกเบี้ยวค่าตัวถึง 2 เรื่อง แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากผู้จัดละครไม่ให้บอก อย่างไรก็ตาม พ่ออี๊ดยังคงมีความหวังว่าสักวันผู้จัดละครเหล่านั้นจะนำเงินมาให้ตน

ความเห็นของ "พ่ออี๊ด-สุประวัติ ปัทมสูต" ต่อวิกฤตการณ์ในวงการละครไทย

พ่ออี๊ดกล่าวว่า ในขณะนี้วงการละครไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์ด้านค่าตัวนักแสดง โดยตนเองก็ถูกเบี้ยวค่าตัวถึง 2 เรื่อง แม้จะเข้าใจถึงสาเหตุและความจำเป็นของผู้จัดละคร แต่ก็ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เพราะเมื่อจ้างนักแสดงมาทำงานแล้ว ก็ควรจะจ่ายค่าตัวให้ตรงเวลาพ่ออี๊ดยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของงานศิลปะ เช่น ละคร หรือภาพยนตร์ ก็มีการพัฒนาและปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ในส่วนของธุรกิจกลับมีปัญหาและสวนทางกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง และหวังว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันจะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหานี้ให้เร็วที่สุด เพื่อให้นักแสดงและผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการบันเทิงสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุข

การติดตามทวงค่าตัวของ "พ่ออี๊ด-สุประวัติ ปัทมสูต"

ในส่วนของการติดตามทวงค่าตัวที่ถูกเบี้ยวไป พ่ออี๊ดกล่าวว่า ตนเองก็ได้มีการติดต่อและพูดคุยกับผู้จัดละครอยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่สามารถได้รับเงินค่าตัวที่ค้างชำระกลับมาได้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยืดเยื้อแม้ว่าจะมีความรู้สึกเห็นใจผู้จัดละครบ้าง เนื่องจากอาจมีเหตุผลและความจำเป็นบางอย่าง แต่พ่ออี๊ดก็ยังคงเชื่อว่าสักวันผู้จัดละครเหล่านั้นจะต้องนำเงินมาให้ตน ซึ่งตนเองก็ไม่ได้ยืดเส้นตายหรือเรียกร้องอะไรมากมาย เพียงแค่ต้องการได้รับค่าตัวที่ตนเองพึงได้ตามสัญญา